วันที่ นักท่องเที่ยว ต่างชาติเริ่มเมินไทย ‘คุณภาพ’ อาจเป็นทางออกเหนือ ‘ปริมาณ’
การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของไทย เรื่องนี้เราทราบกันดี ดังที่ คุณกฤษณ์ จันทโนทก ซีอีโอของ SCB อธิบายให้เราฟังว่า ในปี 2024 ภาคการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจกว่า 2.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 1 ใน 7 ของ GDP ไทย (ประมาณ 14%) ซึ่งในจำนวนนี้มาจากภูเก็ตถึงกว่า 4.9 แสนล้านบาท สูงสุดในประเทศไทย
แต่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2025 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยลดลง 3% อยู่ที่ 14.4 ล้านคน แต่คุณกฤษณ์บอกว่า “ภูเก็ตยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและสามารถเติบโตได้ดี โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 2.4 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า”
จุดที่น่าสนใจคือ แม้นักท่องเที่ยวบางกลุ่ม เช่น จีน จะลดลง แต่ภูเก็ตยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลางได้มากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูงและพำนักในไทยนาน ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยวอื่น
ปริมาณลด ก็ต้องเพิ่มคุณภาพ
คุณกฤษณ์บอกกับเราว่า ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เราต้อง “เปลี่ยนผ่านจากการเน้นปริมาณ ไปสู่คุณภาพ” ช่วยให้รายได้ของโรงแรมมีความผันผวนน้อยลง ลดผลกระทบจากนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่หายไป
และหนึ่งในวิธีการสร้างคุณภาพให้กับภาคการท่องเที่ยวก็คือ ‘ความยั่งยืน’ คุณกฤษณ์หยิบยกข้อมูลจากรายงานการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2025 ของ Booking.com มาเล่าให้ฟังว่า “จากที่สำรวจนักท่องเที่ยว 32,000 คนจาก 32 ประเทศ พบว่านักท่องเที่ยวมากกว่าครึ่ง (53%) หันมาใส่ใจด้านความยั่งยืน”
การที่โรงแรมของไทยปรับตัวสู่แนวทางยั่งยืนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและพร้อมใช้จ่ายสูงขึ้น
ที่สำคัญ “กลุ่มธุรกิจโรงแรมถือเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากภาพรวมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก 11% มาจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงธุรกิจโรงแรม” คุณกฤษณ์อธิบายเพิ่มเติม
สินเชื่อเพื่อความยั่งยืน คือตัวช่วยจากภาคการเงิน
การผลักดันอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งย่อมหนีไม่พ้นความช่วยเหลือจากภาคการเงิน การสร้างความยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยวก็ต้องอาศัยสินเชื่อเพื่อช่วยให้ผู้เล่นเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนขึ้นได้อย่างลื่นไหล
คุณกฤษณ์ จันทโนทก ระบุว่า “ตอนนี้ ธนาคารเป็นผู้ที่ปล่อยสินเชื่อสีเขียวเยอะที่สุด 185,000 ล้าน เราก็พร้อมที่จะปล่อยมากกว่านั้นอีก เพราะผมเชื่อว่ากว่าโจทย์นี้จะเป็นการสร้างโอกาสในระยะยาว”
ตอนนี้ SCB สนใจคนอยู่ 2 กลุ่ม คุณกฤษณ์อธิบาย “นั่นคือลูกค้าที่บรรลุมาตรฐานความยั่งยืนอยู่แล้ว ก็จะเข้าเกณฑ์สินเชื่อสีเขียวในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ หรือหากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่แต่ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แต่อยากจะค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง จาก Brown เป็น Less Brown เราก็มีโปรดักส์ที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่อาจจะยังไม่พร้อมจะเป็นธุรกิจสีเขียวแต่ต้องการค่อยๆ เปลี่ยน เราก็พร้อมให้คุณเข้าสู่แหล่งเงินทุนที่ไม่ได้มีต้นทุนสูง”
ดร.ยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ระบุว่า “SCB ออกแบบผลิตภัณฑ์มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Sustainable Linked Loan, Green Loan และ Green Bond เชื่อมโยงกับเป้าหมายความยั่งยืนของลูกค้า สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีพอร์ตสินเชื่อสูงสุดในอุตสาหกรรมธนาคารไทยถึง 1.35 แสนล้านบาท ซึ่งในพื้นที่อันดามัน สินเชื่อคิดเป็น 25% ของพอร์ตสินเชื่อโรงแรมทั้งหมด และเฉพาะโรงแรมในภูเก็ต ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
หรือความยั่งยืนจะเป็นหนึ่งทางออกของการท่องเที่ยว?
คุณกฤษณ์ จันทโนทก ขมวดปมเรื่องธุรกิจยั่งยืนให้เราฟังว่า “ความยั่งยืนไม่ได้ทำให้ต้นทุนสูง เพราะบนความยั่งยืนเนี่ย สเต็ปแรกไม่จําเป็นต้องกู้แบงก์มาก่อน คุณสามารถเอาคอนเซ็ปต์ความยั่งยืนไปปรับใช้ได้ในสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วโดยไม่ต้องเพิ่มหนี้”
หนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ตอย่าง คุณประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย และ บียอนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ยกตัวอย่างให้ฟังว่า โรงแรม Beyond Kata ใช้โถงหลักแบบสวนหลังคาสูง เปิดโล่ง ไม่ได้เปิดแอร์ ทำให้ประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 145,000 บาท และการนำโซลาร์เซลล์มาใช้ ก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้เดือนละประมาณ 4 แสนบาท
คุณสหรัฐ จิวะวิศิษฎ์นนท์ กรรมการบริหาร บริษัทในเครือ หยี่เต้ง ฮอสพิทาลิตี้ ร่วมให้ความเห็นว่า “ที่ผ่านมาเรามีการทำ green investment ใช้ระบบดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอน อย่างโรงแรมเราปีที่แล้ว carbon emission เราลดประมาณ 6.72% energy consumption เราลดได้ 6.82% เทียบเป็นตัวเงินแล้วถือว่าลดไป 2.1 ล้านบาท”
“สิ่งสำคัญตอนนี้คือการทำให้คนมองว่าความยั่งยืนไม่ใช่ต้นทุนที่เพิ่มเข้ามา แต่ความยั่งยืนนั่นแหละ เป็นการเซฟต้นทุนเพื่อการไปต่อในระยะไกล” คุณกฤษณ์ทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา