จากข้อมูลล่าสุดของ Canalys สมาร์ทโฟน Xiaomi ได้ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองในประเทศไทย อันดับสองในตลาดอาเซียน ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องแปลกใจเลยหาก Xiaomi อาศัยความแข็งแกร่งของแบรนด์ สินค้ามีความหลากหลาย โดยเฉพาะ AIoT ที่ได้รับความนิยมอย่างเครื่องฟอกอากาศ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมกับสมาร์ทโฟน ที่จะสนใจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home appliances) ถึงขั้นวางหมากให้ไทย เป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ระดับอาเซียนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวสินค้าสมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition ที่ แบมแบม กันต์พิมุกต์ รับหน้าที่ แอมบาสเดอร์ของ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดตัวสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และสร้างความฮือฮาด้วยราคาที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างมาก

มร.ทีเจ วอลตัน (TJ Walton) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส เสียวหมี่ อินเตอร์เนชันเนล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Xiaomi เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะอันดับ 4 ในตลาดจีน ด้วยการแข่งขันที่สูงมากในจีนนั้น หากเทียบกับผลประกอบการของเราล่าสุดที่ผ่านมาเราถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ความสำเร็จที่เรานั้นได้รับจากตลาดจีนนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องการจะนำไปสู่ตลาดโลกด้วยเช่นกัน
“สำหรับเรา เราให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ราคานั้นจับต้องได้เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเพลิดเพลินและสัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่งไปกับผลิตภัณฑ์ของเราให้ได้มากที่สุด เราต้องการมอบฟีเจอร์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงราคาที่เอื้อมถึง”
ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ทั้งด้วยเรื่องของราคา เป็นแบรนด์ดั้งเดิมในตลาด แต่ Xiaomi ก็ยังมั่นใจที่จะรุกตลาดในแถบอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่นอกแผ่นดินจีนเป็นครั้งแรก มร.ทีเจ ก็ยังมั่นใจด้วยกลยุทธ์ Human x Car x Home ที่จะเชื่อมต่อ และควบคุมการทำงานง่ายๆ บนสมาร์ทโฟน Xiaomi โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งนี้ที่เรากำลังพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่เราต้องการมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น เชื่อมต่อแบบชาญฉลาด เป็นจุดเด่นที่แบรนด์อื่นๆ ที่เน้นราคาสินค้าถูก ไม่สามารถทำตามได้อย่างง่ายๆ แน่นอน
สำหรับตลาดรถ EV ของ Xiaomi ทาง มร.ทีเจ ยืนยันจากคำแถลงของ William Lu Partner and Senior Vice President of Xiaomi Group ในงานเปิดตัว Xiaomi YU7 ซึ่งเป็นรถ EV รุ่นใหม่ล่าสุดว่าเรากำลังทำงานอย่างหนักที่จะให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi เป็นรถอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเรามีแผนจะเปิดตัวในตลาดนอกประเทศจีนในปี 2027 อย่างแน่นอน
เปิดตัว แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ประเดิมตลาดไทยด้วยราคาจับต้องง่าย
ก่อนหน้านี้ Xiaomi ในประเทศไทย ได้ชิมลางเปิดตัวสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อย่าง Mijia Air Conditioner Pro Eco Inverter ไปแล้วในราคา 14,999 บาท (พร้อมติดตั้ง) ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก และล่าสุดยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง ตู้เย็น Mijia Refrigerator Cross Door 510L ตู้เย็นขนาดความจุ 510 ลิตร แบบ 4 ประตู พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ใช้งานร่วมกับ Xiaomi Home ในการควบคุม แจ้งเตือนต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคา 18,990 บาท
รวมไปถึง Mijia Front Load Washer Dryer 10.5kg เครื่องซักผ้าและอบผ้าขนาด 10.5 กิโลกรัม 32 โหมดการซัก พร้อมด้วยโหมดซักด้วยระบบไอน้ำ ถือว่าเป็นรุ่นที่ให้ฟีเจอร์ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน ไฮเทคด้วยด้วยระบบการสั่งงานแบบจอสัมผัส และยังรองรับการเชื่อมต่อการทำงานผ่านแอป Xiaomi Home ตั้งเวลาการซักได้ด้วยสมาร์ทโฟนของคุณ รับประกันทั่วไป 2 ปี และรับประกันมอเตอร์ 12 ปี วางจำหน่ายกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยราคาพิเศษ 11,990 บาท
สงครามเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยยังเดือด แบรนด์จีนโหมตลาดลดราคารุนแรง
ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 7.0 – 8.5 หมื่นล้านบาทมีการเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 5-9% จากปัจจัยเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ รวมไปถึงเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยหลักๆ มีผู้เล่นจากสามสัญชาติ ได้แก่แบรนด์จากญี่ปุ่นที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดในไทยมากที่สุดในอันดับหนึ่ง ซึ่งยังคงได้ความไว้วางใจจากผู้ใช้งานจากชาวไทยถึงคุณภาพและบริการ แบรนด์จากเกาหลี ที่ยังคงเน้นเรื่องนวัตกรรม ดีไซน์ และการเชื่อมต่อผ่าน AIoT และกำลังรุกหนักไปยังเรื่อง AI และสุดท้ายแบรนด์จากจีน ที่ยังคงโหมรุกตลาดด้วยราคา ที่คุ้มค่าคุ้มราคามากกว่าแบรนด์จากสัญชาติญี่ปุ่นและเกาหลี
และ Xiaomi ถือว่าได้เปรียบเรื่องของสินค้าที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมไปถึงสินค้าที่ไฮเทคอย่างรถยนต์ EV ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 718.8 ล้านรายรวมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต นอกจากนี้ Xiaomi ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT (AI+IoT) ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อกับแพลทฟอร์มกว่า 943.7 ล้านเครื่อง นั้นหมายถึงการเข้ามารุกตลาดในอาเซียนของ Xiaomi ถือว่าถือแต้มต่ออยู่มาก ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล รวมไปถึงเทคโนโลยีที่จัดเต็ม จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ภายใน 5 ปีต่อจากนี้ อาจจะมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าบางแบรนด์ที่ทำการตลาดในไทยนับตั้งแต่ตั้งบริษัทในไทยก็เป็นได้
Xiaomi เปิดตัวสินค้า AIoT เต็มรูปแบบใน ไทย ทั้ง Redmi Pad 2 และกองทัพอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
เปิดตัว Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition และสีใหม่ Sand Gold ในไทย พร้อมโปรฯ แรง ราคา สตาร์ท 5,999 บาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา