ธนาคาร 3 รายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศจะปรับลดพนักงาน นับรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นราย มีหลายปัจจัยที่ทำให้รายได้สุทธิของธนาคารลดต่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาแล้วที่ต้องลดพนักงานลง ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่รอดได้ยาก
3 ธนาคารชั้นนำญี่ปุ่นเตรียมลดคน | สาเหตุ : รายได้ลด สังคมสูงอายุ และดิจิทัล
ธนาคารชั้นนำรายใหญ่ของญี่ปุ่น 3 แห่งได้แก่ Mizuho Financial Group, Mitsubishi UFJ Financial Group และ Sumitomo Mitsui Financial Group กำลังพิจารณาปรับลดจำนวนพนักงานจำนวนมาก เนื่องด้วยเหตุผลอย่างน้อย 3 ประการคือ รายได้ที่มาจากดอกเบี้ยลดลง ความท้าทายของสังคมผู้สูงอายุ (ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) และสำคัญคือการเติบโตชนิดก้าวกระโดดของเทคโนโลยีที่เข้ามา disrupt วงการธนาคาร (ที่จริงมีหลายตัวอย่างที่เกิดขึ้น แต่ลองดูหนึ่งในตัวอย่างได้จากฟินเทค Money Forward ของญี่ปุ่นที่เพิ่ง IPO ไปไม่นานมานี้)
ไล่เรียงกันแต่ละธนาคารเลยดีกว่า ว่ามีแผนจะลดพนักงานกันเท่าไหร่
- เริ่มต้นจาก Mizuho ที่ได้วางแผนว่าในช่วง 10 ปีนี้ จะลดพนักงานทั้งหมด 19,000 คน (คิดเป็น 1 ใน 3 ของพนักงานในบริษัทปัจจุบัน)
- ด้านของ Mitsubishi UFJ กำลังพิจารณาว่าจะลดพนักงานประมาณ 10,000 คนในรอบทศวรรษนี้
- ส่วน Sumitomo Mitsui วางเป้าไว้ว่าจะทำการปรับพนักงานประมาณ 4,000 คน ในรอบ 3 ปีจากนี้ รายนี้ไม่ชัดว่าจะลดคนในบริษัทตรงๆ หรือไม่ แต่บอกไว้ว่าเพื่อประสิทธิภาพของงาน จะบุกไปทำดิจิทัลมากขึ้น ไม่รู้ว่าจะนำเอาพนักงานในส่วนนี้ไปเพิ่มทักษะแล้วพ่วงเข้าไปทำด้วยหรือไม่
เช็คสภาพ(ไม่ค่อย)คล่อง รายได้สุทธิลดลงกันถ้วนหน้า
- เริ่มต้นจากธนาคาร Mizuho เมื่อจบไตรมาสที่ 3 รายนี้ลดลงมากที่สุดถึง 35% (ปีก่อนลด 30%)
- ตามมาด้วย Mitsubishi UFJ รายได้สุทธิลดลงไป 12%
- และ Sumitomo Mitsui ลดลงไปที่ 8%
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก Nikkei ยังระบุด้วยว่า ธนาคาร Mizuho มีแผนที่จะลดสาขาลงให้เหลือครึ่งหนึ่งจาก 800 สาขาที่มีอยู่ในปี 2025 ส่วนหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun รายงานว่า ธนาคาร Mitsubishi UFJ วางแผนว่าจะทำสาขาที่ให้บริการครบวงจรประมาณ 250 แห่งในปี 2024
สรุป
ไม่แปลกที่ธนาคาร “ผู้เล่นหลัก” ในแวดวงการเงินจะถูกท้าทายจากกระแสดิจิทัล disrupt เพราะอำนาจทางการเงินได้กระจายออกไปมากขึ้นจากการเติบโตขึ้นของเทคโนโลยีที่บุกเข้ามาในแวดวงการเงิน ทางออกคือปรับตัวกับกระแสให้ทัน ทำตัวให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ส่วนในแง่พนักงานเอง ถ้าทักษะที่มีอยู่ไม่สอดรับกับกระแสดิจิทัลก็น่าจะอยู่ยาก ลองดูเปรียบเทียบกับวงการอื่นๆ ก็จะเห็นภาพชัดขึ้นว่าโลกกำลังหมุนไปในทิศทางใด แต่ที่ต้องตระหนักให้ดีคือ “อัตราเร่ง” ที่ดูเหมือนจะเร็วขึ้นทุกวันๆ
ที่มา – Japantimes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา