ชื่อ “เอบีเวีย” อาจไม่คุ้น พาลแต่จะให้นึกไปถึง “แอคทีเวีย” แต่ต้องบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เลย เอบีเวียของ Nutridor แบรนด์จากเนเธอร์แลนด์ จับมือกับ LOXLEY ของไทยส่งโยเกิร์ตพร้อมดื่มกล่อง 12 บาท มาเล่นในตลาดที่รายใหญ่ครองเกือบทั้งหมด งานนี้ไม่ง่าย
“เอบีเวีย” ประเดิมตลาดไทย หน้าใหม่ในวงการ
บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำในธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินค้าในไทยกว่า 40 ปี ร่วมกับบริษัท นูทริดอร์ จำกัด ในเครือทีจีไอ กรุ๊ป (TGI Group) จากเนเธอร์แลนด์ ร่วมกันส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ “โยเกิร์ตพร้อมดื่ม” ลงมาสู้ในตลาดนมเปรี้ยว-โยเกิร์ตพร้อมดื่มไทย โดยมี 2 รสชาติคือ รสธรรมชาติและรสสตรอเบอร์รี่ ราคากล่องละ 12 บาท
ความร่วมมือนี้ นูทริดอร์ใช้บริษัทพาร์ทเนอร์อีกรายรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ยังไม่ได้ตั้งโรงงานในไทย แล้วก็ขายผ่านล็อกซเล่ย์ ซังก้า ซุโบรบิสวาส กรรมการผู้จัดการบริษัท นูทริดอร์ จำกัด บอกว่า “เราตามหาพาร์ทเนอร์อยู่นาน ไม่เจอ สุดท้ายมาเจอล็อกซเล่ย์ เรารู้สึกว่าลงตัวดี แล้วก็เชื่อมั่นในประสบการณ์”
ด้าน โกสุม สินเพิ่มสุขสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด เห็นว่าที่จับมือกัน “เพราะตลาดนมพร้อมดื่มกำลังไปได้สวย และถือเป็นครั้งแรกที่จะได้นำเอาผลิตภัณฑ์ของนูทริดอร์มาบุกตลาดในไทย”
การจับมือครั้งนี้จะไม่ได้ส่งแค่ เอบีเวีย อย่างเดียว เพียงแต่ตัวนี้เป็นสินค้าตัวแรกที่ปล่อยออกมา เพราะเห็นว่าตลาดนมกำลังมีการเติบโตที่สูงมาก มูลค่าตลาดนมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตปีละ 14% ทุกปี
ตลาดนมใหญ่ก็จริง แต่หมวดนมเปรี้ยว-โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ดัชมิลล์ครองหมดแล้ว
- ฝ่ายข้อมูลของเอบีเวียเปิดเผยว่า “ในตลาดนมเปรี้ยว-โยเกิร์ตพร้อมดื่ม แบรนด์ดัชมิลล์ครองไปแล้ว 97%”
การจะสู้กับยักษ์ใหญ่ที่ครองตลาดมาก่อนไม่ใช่เรื่องง่าย เอบีเวียเตรียมสู้ในตลาดนมเปรี้ยว-โยเกิร์ตพร้อมดื่มที่มีมูลค่าระดับ 5 – 6 พันล้านบาท ดังนี้
- ดึงความเป็นยุโรปมาตีตลาดไทย ทั้งมาตรฐานและสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ส่งตรงจากเจ้าถิ่น
- ใช้การตลาดแบบออนไลน์มาสู้กับคู่แข่ง ทั้งแคมเปญ กิจกรรมต่างๆ จะฝากความหวังไว้ที่ออนไลน์เป็นหลัก โดยได้ตั้งงบประมาณในส่วนการตลาดไว้ 100 ล้านบาท ปีนี้เปิดตัวด้วยเอบีเวียก่อน แต่ปีหน้าจะส่งผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ของนูทริดอร์มา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าอะไร
- เรื่องสุขภาพ เอบีเวียแม้ว่าจะราคา 12 บาท และมาช้าในตลาดอยู่โข แต่สิ่งที่ส่งมาคือกรดอะมิโนที่มีมากกว่าสินค้าประเภทเดียวกันของแบรนด์อื่นๆ ในตลาดถึง 2 เท่า
แต่เอาเข้าจริง ด้วยความเป็นน้องใหม่ในวงการ เอบีเวียก็บอกว่า “ไม่ได้ต้องการจะมาสู้กับเบอร์ 1 อยู่แล้ว เพียงแค่เข้ามาขอแชร์ของตลาดบ้างเท่านั้น” โดยได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าภภายใน 2 ปี จะทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท หรือถ้าคิดเทียบกับตลาดตอนนี้ก็คือ ประมาณ 2.5 – 3% ของตลาดทั้งหมด
สรุป
เอบีเวีย น้องใหม่จากนูทริดอร์ของเนเธอร์แลนด์ที่มาจับกับผู้จัดจำหน่ายในไทยคือล็อกซเล่ย์ ส่งโยเกิร์ตพร้อมดื่มออกมา แต่ตลาดทำท่าว่าจะเต็มแล้ว เพราะดัชมิลล์เป็นแบรนด์รายใหญ่ที่ครองอยู่ใน segment นี้กว่า 97% ทางเอบีเวีย ก็รู้ในส่วนนี้ดี แต่จากการทำการบ้านมาหนัก เอบีเวียตั้งเป้าไว้ว่าจะแย่งแชร์ตลาดนี้ให้ได้ก่อนใน 2 ปีนี้ที่ 2.5 – 3% แต่ต้องบอกว่า งานนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่สิ่งที่ต้องจับตามองคือ ความแข็งแกร่งของล็อกซเล่ย์ในไทยที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในโมเดิร์นเทรดและเครือข่ายต่างๆ ที่แข็งแรง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ “เอบีเวีย” ขึ้นมาสู้กับยักษ์ใหญ่ก็เป็นได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา