การซื้อของผ่านบัตรเครดิตและเดบิต เรายังคงต้องเซ็นเพื่อยืนยันตัวตนในหลายกรณี แต่สิ่งนี้อาจกลายเป็นอดีตไปแล้วก็ได้ในอีกไม่นานนักเมื่อ Mastercard หนึ่งในผู้ให้บริการบัตรรายใหญ่ของโลกเตรียมยกเลิกลายเซ็นในอเมริกาเหนือ มีกำหนดคือเดือนเมษายนปีหน้า
ทุกวันนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่าน Mastercard กว่า 80% ในทวีปอเมริกาเหนือไม่ต้องใช้การเซ็นโดยเจ้าของบัตรแล้ว และตัวนี้จะสูงขึ้นเป็น 100% ในเมษายนปีหน้า เมื่อ Mastercard ยกเลิกการเซ็น ทำให้ลายเซ็นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไปเมื่อซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต Mastercard ในสหรัฐฯ และแคนาดา
การยกเลิกลายเซ็นในการซื้อสินค้าเป็นหนึ่งในสนับสนุนการเติบโตด้านการจ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัล ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่ถือบัตรเครดิตหรือเดบิตมากว่าสิบปี การเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นไปตามสิ่งที่ Mastercard คาดหวัง คือเพื่อให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยจากการวิจัยพบว่าผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าหากไม่ต้องเซ็นแล้วจะทำให้การจ่ายเงินไวขึ้นและแถวจ่ายเงินก็จะขยับเร็วขึ้นด้วย
แม้จะไม่มีลายเซ็น แต่ความปลอดภัยของบัตรเครดิตและเดบิตก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด Mastercard ต้องทำให้มั่นใจว่าการเลิกเซ็นลายเซ็นจะไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย ภายใต้ระบบความปลอดภัยของ Mastercard การใช้ระบบการยืนยันตัวตนดิจิทัลใหม่ทั้งชิพ, โทเคน และไบโอเมตริก รวมถึงระบบยืนยันตัวตนอื่น ๆ จะช่วยให้การยืนยันตัวตนในการจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นไปได้สะดวก ง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งจากผลการสำรวจของ Mastercard พบว่าทุกวันนี้ฝั่งผู้บริโภคพร้อมแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่กังวลกับการยกเลิก “signature required” และยังคงรู้สึกปลอดภัยแม้จะไม่ได้เซ็นก็ตาม
การเปลี่ยนแปลงระบบจ่ายเงินนี้ ไม่ใช่เฉพาะฝั่งผู้จ่ายที่ได้รับผลประโยชน์เท่านั้น แต่ฝั่งร้านค้าก็ได้ประโยชน์เช่นกัน เพราะสามารถให้บริการลูกค้าได้ไวขึ้น ให้ประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น และลดค่าใช้จ่ายการเก็บเอกสารลายเซ็นจากบัตร และคาดว่าในอนาคตหากภูมิภาคอื่นพร้อม Mastercard ก็น่าจะทยอยเริ่มนโยบายนี้ในภูมิภาคอื่นด้วยเช่นกัน
ที่มา – Mastercard
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา