ไม่ปล่อยให้เรียกภาษีอยู่ฝ่ายเดียว จีนเอาคืนบ้าง!
จีนถูกสหรัฐฯ จัดหนักเรื่องการเก็บภาษีมาตลอด ล่าสุดก็เลยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ขอเรียกภาษีกลับบ้าง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ประกาศเรียกภาษีทั่วโลกที่ 10% และภาษีโต้กลับบางประเทศในอัตราภาษีไม่เท่ากัน แล้วแต่ว่าขาดดุลการค้าประเทศนั้นเท่าไร ซึ่งอัตราภาษีที่จีนเรียกเก็บก็คืออัตรา 34% เท่ากับที่สหรัฐฯ เรียกภาษีจีนเหมือนกัน
โดยจีนออกแถลการณ์จากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศเรียกภาษีต่างตอบแทน หรือภาษีโต้กลับ (reciprocal tariffs) กับสินค้าส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ จีนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้งแบบฝ่ายเดียว (unilateral bullying) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1) สินค้านำเข้าทั้งหมดที่มาจากอเมริกา จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่อัตรา 34%
2) นโยบายที่เกี่ยวกับพันธบัตรและการลดหย่อนภาษี และการยกเว้นภาษี จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จะไม่มีการลดหรือยกเว้นภาษีเพิ่มเติม
3) ถ้ามีสินค้าที่ถูกจัดส่งออกจากสถานที่ต้นทางก่อนเวลา 12.01 น. วันที่ 10 เมษายน 2025 และมีการนำเข้าจีนตั้งแต่เวลา 12.01 น. วันที่ 10 เมษายน 2025 ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 เวลา 24.00 น. จะไม่มีการเรียกภาษีเพิ่มเติมตามที่กำหนดไว้
สำหรับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และจีนนั้น มีความไม่สมดุลมาอย่างน้อย 30 ปีแล้ว จีนเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามาอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมามีอำนาจอีกครั้ง สหรัฐฯ ก็เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 10% โดยอ้างเหตุผลว่า ต้องการหยุดยั้งการนำเข้าสารพิษผิดกฎหมายเฟนทานิล เมื่อรวมกับภาษีศุลกากรที่มีอยู่ก่อนหน้า สินค้าที่จีนนำเข้าสู่สหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บสูงถึง 54%
สำหรับการเรียกภาษีจีนจากสหรัฐฯ นั้นถือว่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อัตราภาษีดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย ที่มีมูลค่ากาค้าประมาณครึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากจีนจะเรียกภาษีโต้กลับในอัตรา 34% แล้ว จีนยังเพิ่มลิสต์ชื่อบริษัทสัญชาติอเมริกัน 11 แห่งว่าเป็นรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ ดังนี้ บริษัท Skydio Inc., BRINC Drones Inc., Red Six Solutions, SYNEXXUS Inc., Firestorm Labs Inc., Kratos Unmanned Aerial Systems Inc., HavocAI, Neros Technologies, Domo Tactical Communications, Rapid Flight LLC, Insitu Inc.
สำหรับลิสต์รายชื่อดังกล่าวจีนระบุว่าเป็นไปตามกฎหมายการค้าระห่างประเทศ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ กฎหมายต้านการคว่ำบาตรต่างประเทศ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับ 11 บริษัทดังกล่าว ห้ามไม่ให้นำเข้าหรือส่งออกที่เกี่ยวข้องกับจีนและห้ามทำการลงทุนในจีน ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้มีความร่วมมือทางทหารและเทคโนโลยีกับไต้หวันด้วย
ที่มา – CNN, Ministry of Finance of the People’s Republic of China, The Ministry of Commerce
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา