อ่านแผนความยั่งยืนของ เนสท์เล่ พร้อมแคมเปญ เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้ ที่อยากให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วม

เนสท์เล่ ประเทศไทย ประกาศความคืบหน้าด้านความยั่งยืนปี 2025 ภายใต้แผน Net Zero 2050 มุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ Good for You, Good for the Planet พร้อมเดินหน้าแคมปญ เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่ความยั่งยืน

Nestle

Good for You ส่งเสริมสุขภาพ และโภชนาการที่ยั่งยืน

เนสท์เล่ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ Good for You ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและโภชนาการ โดยในปี 2024 บริษัทได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ กว่า 4,600 ล้านหน่วยบริโภค รวมถึงจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมแร่ธาตุ และวิตามินกว่า 3,400 ล้านหน่วยบริโภค, นำเสนอผลิตภัณฑ์โภชนาการเฉพาะกลุ่ม ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่ทารกจนถึงผู้สูงอายุ

ที่สำคัญยังเดินหน้าโครงการให้ความรู้ด้านสุขภาพและโภชนาการแก่คนไทยกว่า 5.48 ล้านคน ผ่านโครงการ เนสท์เล่ คาราวาน ครอบครัวแข็งแรง และภารกิจพิชิตสุขภาพดี ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา โดย วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เล่าให้ฟังว่า ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มต้องมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบอาหารและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

Good for the Planet: ความคืบหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero 2050

ขณะเดียวกัน เนสท์เล่ ประเทศไทย เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านแผนงาน 4 ด้านหลัก ได้แก่

  • การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน ที่ประกอบด้วยการใช้เมล็ดกาแฟและน้ำนมดิบที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน 100%
    ส่งเสริม เกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) โดย 20% ของเมล็ดกาแฟสดและน้ำนมดิบที่ใช้จะมาจากเกษตรกรที่นำแนวทางนี้ไปปรับใช้ภายในปี 2025 รวมถึงขยายพื้นที่ปลูกกาแฟโรบัสต้าในจังหวัดตากและเลย พร้อมสนับสนุนเกษตรกรโคนมในการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพน้ำนม
  • การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ผ่านโรงงานผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่สามารถชดเชยน้ำคืนสู่ธรรมชาติ 100% ภายในปี 2025 คิดเป็นปริมาณกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร และโรงงานผลิตน้ำดื่มได้รับมาตรฐาน Alliance for Water Stewardship (AWS) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการฟื้นฟูระบบนิเวศคลองขนมจีน (อยุธยา) และหนองทุ่งทอง (สุราษฎร์ธานี)
  • การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่บริษัทจะลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ (Virgin Plastic) ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2025 และเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล เช่น rPET สำหรับขวดน้ำดื่ม และ rPE สำหรับฟิล์มหุ้มสินค้า พร้อมกับร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ PRO-Thailand Network และ เวสท์บาย เดลิเวอรี่ เพื่อพัฒนาโครงการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์
  • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ที่บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% เมื่อเทียบกับปี 2018 และใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานทั้ง 8 แห่ง และศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 50% ภายในปี 2030

เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้ สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยร่วมดูแลโลก

จากผลสำรวจของ Kantar’s Sustainability Sector Index 2023 พบว่า 76% ของผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม มีเพียง 42% เท่านั้นที่ลงมือเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนั้นแคมเปญ เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้ ในปี 2025 จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้คนไทยมั่นใจว่า ทุกการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

“เราจะเดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้คนไทยร่วมกันดูแลโลก ผ่านกิจกรรมรณรงค์และโครงการที่เข้าถึงคนกว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ” เจนิกา คอนเด ครูซ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าว ทั้งนี้จำนวนการเข้าถึง 20 ล้านคนทั่วประเทศไทยคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรได้ ผ่านการสื่อสารด้วยหนังโฆษณา และสื่ออื่น ๆ

ปัจจุบันมีเกษตรกรทำไรกาแฟกว่า 2,900 คน ที่ร่วมงานกับ เนสท์เล่ ประเทศไทย และบริษัทมีการสร้างการเรียนรู้ด้านเกษตรเชิงฟื้นฟูให้พวกเขาเพื่อทำเกษตรอย่างยั่งยืน และแก้ปัญหาเรื่องผลผลิตในภาวะโลกรวนในปัจจุบัน เพราะภาวะดังกล่าวทำให้กาแฟสูงขึ้นด้วย โดยกลุ่มสินค้ากาแฟ บริษัทใช้ผลผลิตจากประเทศไทย 20% ของทั้งหมด ที่เหลือเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา