LG ตั้งเป้าปี 68 ดันยอดเพิ่ม 15% เป็น 17,550 ล้านบาท อัปเกรด AI ให้ทั้งฉลาดและมีเสน่ห์มากขึ้น

ปีที่แล้ว บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่มา 37 ปี และครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็นสองประตู อย่าง ‘LG Electronics ประเทศไทย’ ดันผลประกอบการโตขึ้น 5% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวเพียง 3.5%

ปีนี้ LG บอกว่า “เราต้องทำได้ดีกว่าเดิม” ตั้งเป้าการเติบโตที่ 15% แตะ 17,550 ล้านบาท โดยลูกค้า LG จะได้เข้าถึง AI มากขึ้น และเป็น ‘ผู้ช่วย’ ของลูกค้า ซึ่งมีความฉลาด รู้ทัน และอ่านใจออก ทำให้การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุก

โดยกลยุทธ์ที่ LG จะใช้ในตลาดประเทศไทยปีนี้ ซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร LG Electronics ประเทศไทย บอก คือพัฒนาให้ AI เข้าใจผู้ใช้งาน และตอบสนองความต้องการแบบแม่นยำ AI ต้องไม่เป็นแค่ ‘Artificial Intelligence’ แต่ต้องเป็น ‘Affectionate Intelligence’ ด้วย หรือพูดง่ายๆ คือ ต้องฉลาด ใส่ใจ และมีสเน่ห์

ด้านอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด LG Electronics ประเทศไทย อธิบายว่า ปีนี้ LG จะนำ AI มาใช้ในผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และบริการต่างๆ ในไทยอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น โดยจะเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์ของ LG ตัวอย่างเช่น: 

  • เครื่องซักผ้า: นำ ‘LG WashTower’ รุ่นใหม่ที่มาพร้อม UX Interface ที่ปรับแต่งได้ตามการใช้งานของแต่ละคน มาสู่ตลาดไทยเร็วๆ นี้ 
  • ทีวี: นำชิปประมวลผล alpha 11 ซึ่งประมวลผลดีขึ้น 4 เท่าจากรุ่นก่อน ช่วยให้ภาพ เสียง มีความคมชัดขึ้น สำหรับไลน์อัปพรีเมียมอย่าง ‘LG SIGNATURE OLED M’ และ ‘OLED T’ ทีวีไร้สายอัจฉริยะรุ่นแรกของโลก รวมถึง ‘LG QNED evo AI’ ไลฟ์สไตล์ทีวี
  • เครื่องปรับอากาศ นำนวัตกรรม ‘AI Air’ ที่เข้าใจและเรียนรู้ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน ทั้งเพิ่มความสะดวกสบาย และประหยัดพลังงานขึ้น

แม้เครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยหลายแบรนด์เคลมว่า มีการนำ AI มาใช้ เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน แต่ ‘อำนาจ สิงหจันทร์’ บอกกับ Brand Inside ว่า สิ่งที่ทำให้ LG ต่างจากแบรนด์อื่นคือ LG ‘ทำมานานมากแล้ว’ ตั้งแต่ก่อน AI จะเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยซ้ำ และมีการเก็บดาต้าผ่าน device กว่า 700 ล้านเครื่อง

นอกจากนั้น LG ยังพัฒนาการเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์อัจฉริยะในผลิตภัณฑ์ โดยใช้โซลูชัน ‘LG AI Brain’ วิเคราะห์ และช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานด้วยกัน รวมทั้งดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของลูกค้าด้วย ‘LG Shield’

ทั้งหมดนี้ LG ตั้งเป้าปี 2568 จะเพิ่มสินค้าที่มีเทคโนโลยี AI เป็น 40% จากเดิมที่มีเพียงประมาณ 20% เท่านั้น โดยจะเพิ่มในสินค้าระดับกลาง-บน ส่วนสินค้ากลุ่มทีวี เริ่มมีการเพิ่ม AI ในระดับล่างด้วย 

ส่วนการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า LG ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกลุ่ม B2B จาก 11% เป็น 15% และรุกตลาด D2C ผ่าน ‘LG.com’ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ซึ่งสินค้าบางรุ่นมีเฉพาะบนเว็บไซต์เท่านั้น รวมถึงขยายช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 15%

ขณะที่กลุ่ม B2C หรือกลุ่มลูกค้าหลัก ยังรักษาสัดส่วนไว้ที่ 70% ซึ่งเป็นกลุ่มที่เห็นการใช้งาน ‘LG Subscribe’ ที่เพิ่มขึ้นด้วย เพราะมองว่าเป็นการ subscribe ที่คุ้มค่า ได้ประกันสูงถึง 5 ปี แม้บางส่วนยังมองว่าเป็นการ ‘ผ่อนในระยะยาว’ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ยอดนิยมใน LG Subscribe คือ เครื่องกรองน้ำ และเครื่องปรับอากาศ ตามมาด้วยเครื่องซักผ้า

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา