เมื่อหลายสิบปีก่อน ฮ่องกง คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของคนไทยเมื่ออยากไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง เพราะด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมาก ราคาคุ้มค่า และมีกิจกรรมหลากหลาย แต่ปัจจุบันฮ่องกงถูกท้าทายจากหลากหลายประเทศที่เข้ามาจูงใจคนไทยมากขึ้นด้วยสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จนมีหนึ่งธุรกิจกำลังประสบปัญหานั่นคือ สวนสนุก
Ocean Park กับ Water World คือสวนสนุกที่อยู่คู่ฮ่องกงมานาน เพราะก่อตั้งเมื่อปี 1977 แต่จะอยู่นิ่ง ๆ ก็คงไม่ได้ จึงเริ่มปรับเป็นศูนย์การเรียนรู้ และพักผ่อนหย่อนใจเต็มรูปแบบ หรือไล่ตั้งแต่การโชว์ของสัตว์ต่าง ๆ , สวนน้ำ รวมถึงการตั้ง 2 โรงแรมหรูภายในพื้นที่เพื่อเพิ่มความสะดวก
ทั้งนี้หากนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาด Ocean Park กับ Water World ล้วนอยู่ในช่วงลูกค้าลดลง โดยในปีงบประมาณ 2018-19 (ก.ค. 2018-มิ.ย. 2019) เคยมีผู้ใช้บริการราว 5.7 ล้านคน ส่วนในปี 2023-24 ยังลดลงเหลือ 3.1 ล้านคน และนั่นคือที่มาของ Ocean Park กับ Water World ที่เริ่มกลับมาเจาะตลาดคนไทยมากขึ้น
นักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม
การเร่งทำตลาดคนไทยของ Ocean Park และ Water World มีที่มาจากภาพรวมนักท่องเที่ยวฮ่องกงที่เริ่มลดลง โดยหากอ้างอิงจากตัวเลขการท่องเที่ยวฮ่องกงในปี 2019 หรือก่อนโรคโควิด-19 ระบาด มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 55.9 ล้านคน ลดลงจากปี 2018 ที่ 14.2% โดยเป็นคนไทย 4.67 แสนคน ลดลง 18.3%
ส่วนในปี 2024 หากนับถึงเดือน พ.ย. 2024 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในฮ่องกงทั้งหมด 40.2 ล้านคน แม้จะเพิ่มขึ้น 33.8% จากปี 2023 แต่ก็ยังไม่ถึงระดับเดียวกับช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด ด้านนักท่องเที่ยวชาวไทยกลับมาที่ 4.60 แสนคน เพิ่มขึ้น 23.1% จากปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงก่อนโรคโควิด-19
เมื่อนักท่องเที่ยวลดลงก็ไม่แปลกที่ Ocean Park Corporation เจ้าของ Ocean Park และ Water World ยังประสบปัญหาจำนวนผู้ใช้บริการ เพราะในปี 2018-19 เคยมีผู้ใช้บริการราว 5.7 ล้านคน ส่วนในปี 2023-24 ยังลดลงเหลือ 3.1 ล้านคน แม้จำนวนนี้จะสูงที่สุดในรอบ 5 ปี แต่ก็อาจยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
Ocean Park เร่งทำตลาดกับคนไทย
Rosalind Siu Executive Director of Sales, Marketing & Entertainment ของ Ocean Park Corporation เล่าให้ฟังว่า หลังจากโรคโควิด-19 ระบาด ทางบริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการสู่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการศึกษา (Conservation and Education) มากขึ้น
“การท่องเที่ยวฮ่องกง และรัฐบาลมีการโปรโมต Ocean Park กับ Water World เป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ยิ่งเราเพิ่งได้แพนด้ามาใหม่อีก 1 คู่แฝด โดยเป็นการคลอดจากคู่แพนด้าที่อยู่กับเรามานาน ทำให้ตอนนี้เรามีแพนด้าอยู่ทั้งหมด 6 ตัว มากที่สุดนอกจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะเป็นตัวดึงดูดสำคัญให้นักท่องเที่ยวเข้ามาด้วย”
ขณะเดียวกันถึงบริษัทจะเปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยการวางภาพลักษณ์ที่แตกต่างจาก Theme Park (สวนสนุก) อื่น ๆ ควบคู่กับการมี 2 โรงแรมที่มีจำนวนห้องรวมมากกว่า 200 ห้อง เมื่อประกอบกับพื้นที่ที่เห็นทั้งภูเขา และทะเล จึงยกระดับเป็น World Class Resort ได้เช่นกัน
จีนแผ่นดินใหญ่คิดเป็นครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว
สำหรับภาพรวมนักท่องเที่ยวของ Ocean Park กับ Water World ครึ่งหนึ่งเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนที่เหลือจะแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียง เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และไทย รวมถึงกลุ่มประเทศที่อยู่ห่างไกล เช่น สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
ส่วนการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใน Ocean Park กับ Water World จะใช้เวลาราว 3 วัน 2 คืน โดยผู้ใช้บริการจะพักในโรงแรมของบริษัท และอาจมี 1 วัน ไปเที่ยวชมเกาะฮ่องกง ส่วนเทศกาลการท่องเที่ยวของ Ocean Park กับ Water World จะแบ่งเป็น 5 เทศกาล เช่น หน้าร้อน, คริสต์มาส และฮาโลวีน เป็นต้น
“ไทยยังเป็นเป้าหมายสำคัญของเรา ผ่านการทำตลาดกับบริษัททัวร์ต่าง ๆ รวมถึงตั้งหน่วยงานในไทยเพื่อช่วยกระตุ้นตลาด และอาศัยอินฟลูเอนเซอร์ช่วยสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยรู้สึกอยากมาท่องเที่ยวฮ่องกง และใช้เวลากับ Ocean Park กับ Water World จนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่ต้องเสียเงินใช้บริการในฮ่องกง”
ไม่ได้มีแค่สัตว์ แต่จูงใจด้วยเครื่องเล่นใหม่ ๆ
จากข้อมูลข้างต้น Ocean Park และ Water World อาจเน้นที่เรื่องสัตว์ และการเรียนรู้ แต่หลังจากนี้บริษัทมีการลงทุนเครื่องเล่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น บันจีจัมป์ โดยจะก่อสร้างในพื้นที่ที่ว่างอยู่ ซึ่งเครื่องเล่นเหล่านี้จะตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว และเด็กเล็ก ซึ่งปี 2028 จะเริ่มเห็นเครื่องเล่นใหม่ ๆ มากขึ้น
หากเจาะไปที่รายได้จะพบว่า Ocean Park Corporation มีรายได้รวม 1,181 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 5,130 ล้านบาท เติบโต 41% จากปี 2023 โดยตัวเลขนี้เติบโตมากที่สุดในช่วง 5 ปี โดยมาจากการจำหน่ายตั๋วที่เพิ่มขึ้น 54%, การจำหน่ายสินค้า และอาหารเพิ่มขึ้น 27% กับ 32% ตามลำดับ
ที่สำคัญการจับจ่ายเฉลี่ยต่อหัวยังเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2023 แต่ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทอยู่ที่ 1,478 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 17% โดยเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการอนุรักษ์ และการเรียนรู้ 437 ดอลลาร์ฮ่องกง
หมดการสนับสนุนจากรัฐทำบริษัทยังขาดทุน
เมื่อรวมการสนับสนุนจากภาครัฐ (สิ้นสุดปี 2026) ที่ลดลงจาก 849.5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 2023 เหลือ 280 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปี 2024 บริษัทจะขาดทุนจากการดำเนินงานที่ 71.6 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หากไม่นับรวมการสนับสนุนจากรัฐ, ค่าเสื่อม และอื่น ๆ บริษัทขาดทุนจากการดำเนินงานสุทธิ 297.2 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ลดลง 30%
ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Ocean Park Corporation วางตัวอยู่ในหลายบทบาทที่นี่ ไม่ใช่แค่เพียงหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยว และยังเป็นตัวขับเคลื่อนในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ และส่งเสริมการศึกษา มากกว่านั้นเรายังจะเชื่อมโยงการท่องเที่ยว, วัฒนธรรม และการกีฬา เข้าด้วยกันหลังจากนี้ด้วย
Rosalind Siu เสริมว่า ในปีงบประมาณ 2024-25 บริษัทจะเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องแพนด้าที่มีทั้ง 6 ตัว เพื่อสร้างสีสัน และจูงใจให้คนในฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่ และทั่วโลก เข้ามาเยี่ยมชม เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการ และรายได้ให้เติบโต ส่วน
เทียบสวนสนุกไทยที่ยังโตลำบาก
Ocean Park Corporation หากนำมาเปรียบเทียบกับธุรกิจสวนสนุกในไทยคงอธิบายได้ลำบาก เพราะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ส่วนธุรกิจในไทยล้วนเป็นของบริษัทเอกชน เช่น บริษัท อะมิวส์เม้นท์ ครีเอชั่น จำกัด ผู้ให้บริการสวนสนุกดรีมเวิลด์ ในปี 2023 มีรายได้รวม 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% กำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82%
ด้าน บริษัท สยามพาร์ค บางกอก จำกัด ผู้ให้บริการสวนสยาม มีรายได้รวมปี 2023 ที่ 321 ล้านบาท เติบโต 52% และขาดทุนสุทธิ 164 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนเท่าตัว โดยตัวรายได้รวมของดรีมเวิลด์นั้นมากกว่าช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาดแล้ว ส่วนฝั่งสวนสยามยังอยู่ในระดับที่ใกล้จะถึงจุดดังกล่าว
โดยกลางปี 2024 เจคอบ วาฮ์ล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการสมาคม IAAPA เสริมว่า อุตสาหกรรมสวนสนุก สวนน้ำ และความบันเทิงยังมีโอกาสเติบโต 2 หลัก ภายใน 5 ปีจากนี้ ผ่านการที่ทุกคนอยากออกมาใช้ชีวิต และผ่อนคลายจากปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในระดับโลก
สำหรับทิศทางของตลาดนี้ในปี 2024 จะขับเคลื่อนด้วย 4 เรื่องคือ
- Immersive Experience หรือ กิจกรรมที่ช่วยให้ผู้คนหนีจากปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น เทคโนโลยี VR
- Intellectual Property หรือ การนำตัวละครลิขสิทธิ์มายกระดับเครื่องเล่น และกิจกรรมต่าง ๆ
- Seasonal Event หรือ การนำเทศกาลต่าง ๆ มาต่อยอดในการสร้างบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละประเทศ
- Digital Technology หรือ การนำระบบต่าง ๆ มาช่วยอำนวยความสะดวก เช่น ขายตั๋ว และจองคิว
ส่วนกลุ่มประเทศที่มีการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากที่สุดคือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ Louvre ในกรุงอาบูดาบี รองลงมาเป็นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน กับเวียดนาม ที่มีการลงทุนเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา