โตชิบา มองเศรษฐกิจไทยยังดี ลุ้นปี 68 ตั้งเป้าโต 25% สูงกว่าตลาดรวมไทย

ถึงแม้ว่าหลายภาคส่วนของไทย มองภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2568 อยู่ในสภาพถดทอย กำลังซื้อลดลง แต่ “โตชิบา” มองภาพรวมไทยในแง่ดี ตลาดยังเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา อาศัยความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าสูง ดันสินค้ากลุ่ม Mid to high โตอย่างโดดเด่น ตั้งเป้ายอดขายโต 25% ภายในปีนี้ หวังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านในไทย

อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด

อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (รวมตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก ไม่รวมทีวี) ในประเทศไทย ปี 2567 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 83,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 9% เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นกว่าปกติ เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ จึงมีปริมาณการซื้อของใช้ภายในบ้านทดแทนใหม่เป็นจำนวนมาก และเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว

“เมื่อแยกประเภทสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ มูลค่าตลาดประมาณ 65,000 ล้านบาท โตขึ้น 11% ในขณะที่สินค้ากลุ่ม สินค้าขนาดเล็ก อาทิ หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น พัดลม เป็นต้น เติบโตประมาณ 3% มูลค่าตลาดประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทรงตัว เป็นผลจากกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าฐานล่างลดลง”

ในส่วนของการดำเนินงานโตชิบาในปี 2567 อเล็กซ์ เปิดเผยผลประกอบการรวมเติบโตสูงถึง 24% จากที่ตั้งเป้าไว้ 20% ส่วนใหญjเป็นสินค้ากลุ่ม Mid to High อาทิกลุ่มตู้เย็น มีอัตราการเติบโต 20% รองลงมาได้แก่กลุ่มเครื่องซักผ้า เติบโตถึง 39% ส่วนเครื่องปรับอากาศถึงแม้ว่าสัดส่วนจะโตขึ้น 82% แต่เนื่องบริษัทเพิ่งได้ผลิตกลุ่มสินค้านี้ออกจำหน่าย ส่วนกลุ่มสินค้าอื่น เช่นกลุ่มเตาอบไมโครเวฟ เติบโต 21% กลุ่มสินค้าหม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโต 10% กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับน้ำ อาทิ เครื่องทำน้ำอุ่น ทรงตัว สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ แม้โตชิบาจะไม่เติบโต แต่ภาพรวมตลาดติดลบเกิน 10% เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

แบรนด์ดี คุณภาพสูง ลูกค้ายอมจ่ายแพงเพื่อได้ของที่ดีกว่า

อเล็กซ์ เผยเพิ่มเติมว่า จากการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ ที่บริษัทฯ ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอดในปีที่ผ่านมา และด้วยคุณภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์โตชิบา ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคและคู่ค้า ในแง่ของความทนทาน ดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงแนวความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในรายละเอียด และความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ทำให้ผลิตภัณฑ์โตชิบาได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี และในปีนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยเน้นเจาะตลาดผู้ใช้กลุ่ม Mid to High ที่ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ และคุณสมบัติสินค้ามากขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังซื้อที่สูง เพราะต้องการคุณภาพ การดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ตอบรับกับความต้องการของผู้ใช้

“สำหรับการแข่งขันในตลาดประเทศไทยในปีนี้ มองว่าตลาดโดยรวมจะโตเพียง 3-5% แต่เราต้องการโต 25% ดังนั้น ก็ต้องมีแบรนด์อื่นๆ โดยเฉพาะแบรนด์จีน ลงมาเล่นสงครามราคาบ้าง สำหรับโตชิบา เราไม่อยากร่วมเล่นสงครามราคา เพราะมองว่าจะทำให้พาร์ทเนอร์ ลูกค้า องค์กร บริษัท มีแต่เสียกับเสีย เหมือนการฆ่าตัวตาย แต่หากจะให้สู้กลับ ก็อาจจะปรับลดราคา หรือทำแคมเปญระยะสั้น รวมไปถึงการจัดรายการส่งเสริมการขายหน้าจุดขาย และตอกย้ำถึงคุณภาพ และความมั่นใจในแบรนด์”

ยอดขายดี เพราะสินค้าตอบโจทย์คนไทย

โตชิบา เรามีทีม R&D ที่วิจัย พัฒนา สำรวจความต้องการของผู้ใช้ในไทยว่าต้องการอะไร ทำให้เราสามารถมีสินค้าที่วางจำหน่ายในปีนี้มากถึง 227 รุ่น โดยมีสินค้ารุ่นใหม่วางจำหน่ายมากถึง 53 รุ่น โดยแบ่งเป็นกลุ่มตู้เย็นจาก 11 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า 19 รุ่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัว 16 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านอีก 7 รุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นเรามีกลยุทธ์ไว้สามแกน เพื่อผลักดันยอดขาย

เอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
  • เจาะตลาดแมส (Mass Segment) โดยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี โดยส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคามิตรภาพเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง และเพิ่มสเปคหรือเทคโนโลยีเข้าไปให้โดดเด่น ในราคาเท่าเดิม
  • ขยายฐานไปยังกลุ่มระดับกลางถึงบน (Mid to High Segment) ที่เติบโตขึ้นในทุกปี กลุ่มนี้จะมีความต้องการเฉพาะด้านที่แบรนด์อื่นๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์ เช่นต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดความจุใหญ่ อาทิกลุ่มเครื่องซักผ้าหรือตู้เย็น ต้องการฟังก์ชันที่ดูดกลิ่นรบกวนที่รุนแรงในตู้เย็น ต้องการสเปคบางอย่างที่มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของ ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยมักจะมีความต้องการตรงกัน ต้องการความสะดวกสบาย ต้องการประหยัดเงิน ซึ่งเหล่านี้จะตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของคนไทย
  • เจาะเข้าตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องดีไซน์ สเปค หรือเทคโนโลยี

จึงทำให้หลายๆ สินค้า ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะตู้เย็นขนาดกลาง โตขึ้นถึง 60% และตู้เย็นขนาดใหญ่ ไซด์บายไซด์ และตู้เย็น 4 ประตู ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ตลาดโตสูงสุด โตชิบาโตขึ้น 200% และทำให้ตู้เย็นโตชิบารุ่น GR-RS600 ขึ้นแท่นเป็นตู้เย็นไซด์บายไซด์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย เอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

คนไอที อยู่วงการเทเลคอมมาร่วม 20 ปี ผันตัวมาทำสิ่งใหม่ๆ แล้วก็เริ่มสนุกกับมัน!