แค่การตลาด หรือขายจริง? ช้าง ส่งเบียรขวดฝาเกลียว ใช้ชื่อ อันพาสเจอร์ไรซ์ ชิงแชร์เบียรพรีเมียม 4 หมื่นล้าน

เบียร์ช้าง ส่ง “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์” ลุกตลาดเบียร์พรีเมียม 40,000 ล้านบาท ส่งท้ายปี 2567 เปิดตัวนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก “ขวดอลูมินั่มฝาเกลียว” (Screw-top Aluminum Bottle) เป็นแบรนด์แรกในไทย ผนึก “เซเว่น อีเลฟเว่น”

ทั้งนี้เพิ่มโอกาสในการดื่มให้คนไทยและนักท่องเที่ยว ให้ได้ลิ้มรสประสบการณ์รสชาติความสดใหม่ โดยไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์หลังบรรจุขวด คงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติจากวัตถุดิบธรรมชาติ โดยตั้งเป้ายอดขาย กว่า 25 ล้านขวด ภายในปี 2568 พร้อมตอกย้ำการร่วมสร้างการเติบโตด้านความยั่งยืนของบริษัท

นายทรงวิทย์ ศรีธรรม ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า จาก นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) ณ เดือนกันยายน 2567 พบว่า “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ เป็นเบียร์พรีเมียมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนักดื่มไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยการเติบโตเกือบ 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 

เนื่องจากสามารถตอบโจทย์เมกะเทรนด์ Premiumization ของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าที่คุ้มค่า และประสบการณ์ความแปลกใหม่ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ในไทย 

ด้วยความพิเศษของ ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งเป็นเบียร์ที่ไม่ผ่านความร้อนหลังบรรจุขวด จึงต้องควบคุมคุณภาพตลอดทุกกระบวนการ ด้วยการผนึกกำลังกับ เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีความพร้อมในระบบขนส่งแบบเย็นครอบคลุมทั่วประเทศ จัดจำหน่าย ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ขวดอลูมินั่มฝาเกลียว ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมเป็นต้นไป 

โดยใช้งบประมาณในช่วงเปิดตัว 100 ล้านบาท เพื่อทำให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และรสชาติความสดใหม่ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่ง“

ทั้งนี้ นวัตกรรมขวดอลูมินั่มฝาเกลียว สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ สามารถคงความเย็นได้นานกว่าบรรจุภัณฑ์กระป๋องทั่วไป โดยบรรจุภัณฑ์อลูมินั่มที่ผ่านการบริโภคแล้วทุกชิ้นส่วนสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ไม่กลายเป็นขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ด้านการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน ด้วยการหมุนเวียน

“ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์” เป็นนวัตกรรมเบียร์ที่คงรสชาติความสดใหม่และกลิ่นหอมของเบียร์ให้ได้มากที่สุด ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่ผ่านความร้อนหลังบรรจุขวด (Unpasteurized) และกระบวนการผลิตที่เติมไนโตรเจน (Nitrogenation) เพื่อให้อณูฟองที่ละเอียดและนุ่ม ส่งตรงจากโรงเบียร์ด้วยระบบขนส่งเย็นด้วยอุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส เปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และขยายพื้นที่เข้ามาจำหน่าย ณ ร้านอาหาร และโรงแรมในเครือไทยเบฟ ในกรุงเทพฯ 

โดยแบรนด์ช้างมีเทรนด์ส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันตลาด Mainstream ให้ฟื้นตัวกลับมากว่า 5% 

ในขณะที่ตลาดเบียร์พรีเมียม (Mass Premium) ยังคงมีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องจากเทรนด์ Premiumization โดยมีอัตราการเติบโตกว่า 30% มีมูลค่ารวมมากกว่า 40,000 ล้านบาท โดยช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายเกือบ 300% ปัจจุบันเบียร์ช้างมีผลิตภัณฑ์ในตลาดเบียร์พรีเมียม 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ช้าง โคลด์ บรูว์  ช้าง เอสเปรสโซ่ และช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา