จีนโดนอีก ล่าสุดสหรัฐฯ เพิ่มชื่อบริษัทซอฟต์แวร์และบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีนอีก 140 แห่งไว้ในลิสต์เพื่อตั้งข้อจำกัดทางการค้า นี่เป็นท่าทีที่สะท้อนความพยายามสกัดจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เคยทำมา
นี่เป็นการตั้งเป้าหมายใหม่อีกครั้ง และรายชื่อบริษัทเกือบทั้งหมดที่ลิสต์มาอยู่ในประเทศจีนแทบทั้งนั้น บริษัทอันดับท็อปๆ ก็อยู่ในนี้ด้วย เช่น SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corp.) บริษัทที่เชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei ไปจนถึงบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ชิปชั้นแนวหน้าของจีน เช่น Beijing Naura, ACM Research และ Piotech ล้วนถูกขึ้นชื่อในบัญชีจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ ทั้งสิ้น
แค่นี้ยังไม่พอ รัฐบาล Biden ยังทิ้งทวนด้วยการออกข้อกำหนดเพื่อจำกัดการส่งออกชิปที่มีหน่วยความจำสูงอย่าง HBM (High Bandwidth Memory) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จำทำให้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลกลางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย และยังช่วยในการประมวลผล AI อีก ซึ่งผู้ผลิตชิปรายใหญ่นี้ก็มีบริษัทเทคชั้นนำหลายแห่ง เช่น SK Hynix, Samsung Electronics และ Micron
การควบคุมล่าสุดของสหรัฐฯ ก็มีทั้งอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาและผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ ก็ถือเป็นกลยุทธ์ครั้งใหญ่ ครั้งที่ 3 แล้วสำหรับความพยายามที่จะห้ามบริษัทอเมริกันไม่ให้ส่งสินค้าไปจีน กฎดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้วันที่ 31 ธันวาคมนี้
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้ เกิดขึ้นตามมาตรการควบคุมที่ออกมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2022 และเดือนตุลาคม ปี 2023 ที่มีเป้าหมายเพื่อกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของประเทศ
โดย Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นจุดสุดยอดภายใต้การบริหารของรัฐบาล Biden-Harris ที่พยายามร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วน ในการทำให้ศักยภาพในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนอ่อนแอลง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจขึ้นแก่ความมั่นคงของชาติบ้านเมืองได้
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกกฎใหม่เพื่อให้มีผลโดยตรงต่อสินค้าส่งออกนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก็มีหลากหลายแห่ง เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ที่ใช้เทคโนโลยีสหรัฐฯ ส่งไปยังจีน สหรัฐฯ ยังพยายามกดดันเนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่นเพื่อช่วยกันควบคุมการส่งออกอุปกรณ์เหล่านี้ไปยังจีนด้วย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนเองก็ไม่เห็นด้วยอย่างมากกับท่าทีนี้
ที่มา – Nikkei
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา