Amazon เว็บขายออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ประกาศขึ้นค่าแรง พร้อมให้สิทธิ์สมาชิก Prime ฟรีกับพนักงาน

Amazon ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ประกาศเพิ่มค่าแรงให้กับพนักงานในสหรัฐกว่า 800,000 คน โดยเฉพาะในส่วนคลังสินค้า และการขนส่ง พร้อมกับให้สิทธิการใช้บริการ Amazon Prime ฟรี ซึ่งปกติมีค่าบริการรายปีอยู่ที่ 139 ดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงการจูงใจแรงงานในส่วนนี้ให้อยู่ในระบบต่อไป

Amazon

ปรับค่าแรงขึ้นอย่างน้อย 1.5 เหรียญ/ชม.

สำนักข่าว CNN รายงานว่า การปรับเพิ่มค่าแรงครั้งนี้ทำให้ค่าแรงเริ่มต้นของ Amazon สูงขึ้นอย่างน้อย 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ชม. หรือราว 50 บาท ส่งผลให้ค่าแรงเฉลี่ยของพนักงานอยู่ที่มากกว่า 22 ดอลลาร์/ชม. หรือราว 728 บาท ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของการแข่งขันในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มคลังสินค้า และการขนส่ง

เนื่องจากแรงงานดังกล่าวมีความต้องการสูงผ่านการเติบโตของการขายออนไลน์ สวนทางกับตลาดแรงงานโดยรวมที่ค่อนข้างชะลอตัว โดยจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ค่าแรงเฉลี่ยของพนักงานในกลุ่มขนส่ง และคลังสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 30.79 ดอลลาร์/ชม. ในเดือนสิงหาคม หรือเพิ่มขึ้น 22% จากปี 2020

การเพิ่มค่าแรงของ Amazon เกิดขึ้นในช่วงที่คู่แข่งสำคัญทั้ง UPS, Walmart และ Target ต่างปรับค่าแรงให้กับพนักงานคลังสินค้าเช่นกัน โดย UPS ได้บรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานเพื่อเพิ่มค่าแรงเริ่มต้นเป็น 23 ดอลลาร์/ชม. เป็นต้น

ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Amazon ยังเกิดขึ้นก่อนช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งเป็นช่วงที่การชอปปิงออนไลน์มักคึกคักที่สุดของปี โดย Deloitte คาดว่า ยอดขายในช่วงดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสูงสุด 3.3% โดยเฉพาะยอดขายออนไลน์ที่มีโอกาสเติบโตถึง 9%

ถูกกดดันจากการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง

นอกจากค่าแรงแล้ว Amazon ยังเจอกับการวิจารณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานในคลังสินค้า เพราะการตรวจสอบจากคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐชี้ว่าคลังสินค้าของ Amazon มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูงในช่วงกิจกรรมสำคัญ Prime Day และช่วงเทศกาลวันหยุด

รวมถึงพนักงานจำนวนมากยังคงร้องเรียนเกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งทำงานในคลังสินค้าที่มีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลถึง 28 สนาม พร้อมทั้งถูกติดตามการทำงานตลอดเวลา แต่ทาง Amazon ออกมาแก้ต่างว่า การทำงานของพนักงานยังมีความปลอดภัย และอุบัติเหตุจากการทำงานลดลง 28% ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา

Brand Inside มองว่า การเพิ่มค่าแรงของ Amazon สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดในตลาดแรงงานด้านการขนส่ง และคลังสินค้าที่ยังดุเดือด ผ่านการแข่งขันในการดึงดูดแรงงาน โดยเฉพาะในช่วงที่ความต้องการด้านการขนส่ง และการจัดการคลังสินค้ายังคงสูง

ดังนั้นการที่ Amazon ตัดสินใจมอบสิทธิประโยชน์เช่น Prime ฟรี เป็นเครื่องมือในการดึงดูดแรงงาน และรักษาพนักงานในระยะยาว ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้บริษัทคู่แข่งต้องพิจารณาปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา