Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธง หรือ รุ่นท็อปสุดได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ กับราคา 19,500 บาท จากเดิมหากคำนวณราคาจากเครื่องที่ขายในต่างประเทศ 599 ยูโร หรือประมาณ 24,000 บาท ถือว่าสูง แต่พอราคาจริง ซึ่งทาง Nokia บอกว่าเป็นราคาสำหรับในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ สร้างความน่าสนใจขึ้นมาทันที และเครื่องพร้อมวางจำหน่าย 29 ส.ค. นี้
ยืนยันแบรนด์ยังแข็งแกร่ง คนรุ่นใหม่ยังคิดถึง
นอกจากเรื่องราคาสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่ดึงดูดใจอยู่ไม่น้อย เพราะเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงของแบรนด์อื่นๆ ราคาขยับขึ้น 2 หมื่นกว่ากันแล้ว บวกกับแบรนด์ Nokia ก็มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่รอดูอยู่ หลังการเปิดตัว Nokia 3 5 และ 6 ไปก่อนหน้านี้และได้รับการตอบรับอย่างดี
ซานดีฟ กุพทา ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาค บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) ผู้ที่ได้สิทธิ์นำแบรนด์ Nokia มาทำตลาดอีกครั้ง บอกว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของภูมิภาคนี้ Nokia เคยเป็นอันดับ 1 มาก่อน แม้จะหายจากตลาดไประยะหนึ่ง แต่จากการเปิดตัว Nokia 3 5 และ 6 ทำให้รู้ว่ายังมีฐานตลาดอยู่
จากการสำรวจความเห็นทั่วโลกและในภูมิภาคนี้ รวมถึงการทำตลาดในประเทศจีน พบว่า Nokia มียอดขายที่ดี โดยเฉพาะจากกลุ่ม Millennial ซึ่งถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่อาจจะไม่ทันได้รู้จัก Nokia แสดงว่าโอกาสทางธุรกิจยังเปิดกว้าง ยิ่งในไทย มาพร้อมกับราคา 19,500 บาท มีให้เลือก 3 สี น้ำเงินเงา, น้ำเงินเข้มและสีเงิน เชื่อว่าผู้บริโภคจะตัดสินใจได้ไม่ยาก
3 ปี ของเป็นท็อป 3 แบรนด์
สำหรับการแข่งขันที่หนักหน่วงในตลาด แต่เชื่อว่า Nokia ก็มีความแข็งแกร่งเช่นกัน แม้จะไม่สามารถบอกเป้าหมายเป็นตัวเลขได้ แต่ภายในปี 2020 หรือ 3 ปีจากนี้ Nokia จะเป็นท็อป 3 ในตลาด
โดยช่องทางการขาย Nokia จะร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลักทั้ง 3 รายในกระจายสินค้า รวมถึงร้านค้าโทรศัพท์มือถือทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วประเทศสามารถเข้าถึงได้
ขณะที่ศูนย์บริการหลังการขาย ผู้บริโภคสามารถติดต่อจากจุดที่ซื้อได้โดยตรง หรือร้านไอทีซิตี้ ซึ่ง Nokia ใช้บริการผ่าน SVOA ในการดูแลบริการหลังการขายทั่วประเทศ
Pure Android คือจุดเด่น ในรุ่นไหนก็อัพเกรดได้
สำหรับจุดเด่นของ Nokia คือ การมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Pure Android ด้วยความร่วมมือกับ Google ที่ต้องการให้ผู้ใช้ได้ใช้สมาร์ทโฟนที่ทำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย จึงนำระบบปฏิบัติการแบบ Pure Android มาใช้งาน
ดังนั้นใน Nokia ทั้งรุ่น 3 5 6 และล่าสุด Nokia 8 จะรองรับระบบปฏิบัติการตัวล่าสุด คือ Android Nougat 7 และพร้อมรองรับการอัพเกรดเป็น Android 8 Oreo ในอนาคต จากปกติสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ จะใช้เวลาในการอัพเกรดระยะหนึ่งเพราะไม่ใช่ Pure Android และถ้าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางหรือล่าง มักจะไม่มีการอัพเกรดให้ แต่ Nokia สามารถทำได้ ถ้าตรวจสอบแล้วว่า สเปคเครื่องเพียงพอ
จุดเด่นอื่นๆ คือ การใช้เลนส์ ZEISS ทั้งกล้องหน้าและหลัง ที่ 13MPS เท่ากัน ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์ Bothie (โบธี) สามารถถ่ายภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ หรือ LIVE แบบคู่หน้าหลังพร้อมกัน ต่อด้วยระบบเสียง Nokia OZO บันทึกเสียงแบบ 360 องศา ด้วยไมค์ 3 ตัว
สรุป
Nokia 8 น่าสนใจที่ระบบ Pure Android ใช้ระบบปฏิบัติการจาก Google โดยตรงได้ใส่ระบบเพิ่ม ทำให้การทำงานจะรวดเร็ว และพร้อมอัพเกรดใหม่ได้เร็วกว่าแบรนด์อื่นๆ ด้วยฟังก์ชั่น ฟีเจอร์ต่างๆ ที่จัดมา เปิดตัวราคา 19,500 บาท ถือว่าสามารถแข่งขันในตลาดได้ สุดท้ายอยู่ที่การทำตลาด โปรโมท ให้คนรู้จักและเข้าถึง และความสามารถในการเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา