ไม่ได้จนที่สุดอย่างที่คิด Gen Z คนเยอะสุด ร่ำรวยสุด และใช้จ่ายเติบโตเร็วสุดในโลก

หลายปีก่อนจนถึงตอนนี้มีความเชื่อที่ว่า ‘Gen Z’ เป็นคนรุ่นที่จนที่สุดในโลก แต่รู้หรือไม่ว่า Gen Z ที่เป็นเจนเนเรชันที่มีจำนวนคนมากที่สุดตอนนี้อาจไม่ได้จนอย่างที่เราคิด และการใช้จ่ายของ Gen Z กำลังจะเติบโตแซงหน้าคนรุ่นอื่นๆ ทั่วโลก

Gen Z มีคนทะลุ 2 พันล้านคน เยอะที่สุดในทุกรุ่นที่เคยมีมา

จากรายงาน ‘Spend Z’ ที่จัดทำโดย NielsenIQ และ GfK ร่วมกับ World Data Lab (WDL) อธิบายว่า ปัจจุบัน Gen Z (เกิดระหว่างปี 1997-2021) มีจำนวนมากกว่า 2 พันล้านคนและมีสัดส่วน 25% ของประชากรทั่วโลกแล้ว

ทำให้ Gen Z เป็นเจนเนเรชันที่มีจำนวนประชากรมากกว่า Gen Y (เกิดระหว่างปี 1981-1996) และน่าจะเป็นเจนเนเรชันที่มีจำนวนประชากรมากสุดที่เคยมีมา ทำให้กำลังซื้อของคน Gen Z มหาศาลตามจำนวนประชากรไปด้วย

โดย ‘Spend Z’ คาดว่าในปี 2030 อำนาจการใช้จ่ายของ Gen Z จะเพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  ทำให้ในอนาคตอันใกล้ Gen Z จะทรงมีอิทธิพลต่อองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าปลีกจำนวนมาก

[ เทียบตอนอายุเท่ากัน Gen Z เป็นรุ่นที่ร่ำรวยที่สุด ]

หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า ถ้าเทียบตอนอายุเท่ากัน Gen Z เป็นคนรุ่นที่รวยที่สุด โดยพบว่า Gen Z ชาวอเมริกันอายุเฉลี่ย 25 ​​ปี มีรายได้ครัวเรือนต่อปีมากกว่า 40,000 ดอลลาร์ ถือว่าดีกว่า Gen Y ตอนอายุเท่ากัน และสูงกว่ารายได้ของ Baby Boomer ตอนอายุเท่ากันถึง 50% (เป็นตัวเลขหลังหักภาษี เงินโอนจากรัฐบาล และอัตราเงินเฟ้อแล้ว)

และไม่ใช่แค่ในอเมริกาเท่านั้น แต่เมื่อใช้เครื่องมือในการตัดเงินเฟ้อและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนออกแล้ว ‘Spend Z’ ก็ยืนยันว่า Gen Z ยังคงร่ำรวยมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ ตอนที่อายุเท่ากัน ทำให้คน Gen Z เป็นเจนเนเรชันที่ร่ำรวยที่สุดตอนนี้

พอถึงปี 2030 Gen Z จะกลายเป็นผู้มีความมั่งคั่งหรือ ‘คนรวย’ มากกว่า Gen Y ในทุกภูมิภาคของโลก สลัดจากความเชื่อที่ว่า “Gen Z เป็นรุ่นที่จนที่สุดเท่าที่เคยมีมา”

[ อีก 6 ปี Gen Z จะใช้จ่ายเติบโตมากที่สุด ]

และในอีกประมาณ 6 ปีข้างหน้า แม้ว่ากลุ่มคนอายุมากกว่า 60 ปีจะมีสัดส่วนการใช้จ่ายมากที่สุดในโลก แต่ Gen Z เป็นกลุ่มที่การใช้จ่ายเติบโตมากที่สุด 

ปัจจุบัน การใช้จ่ายทั่วโลกมีมูลค่าราว 57.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันมาจาก Gen Z กว่า 17.1% ในปี 2030 จะเติบโตเป็น 18.7% ของการใช้จ่ายทั่วโลก ทำให้ธุรกิจต้องหันมองว่าจะแบ่งสรรการลงทุนเพื่อนคน Gen Z ไว้ยังไงบ้าง

[ Gen Z ดิจิทัลเฟิร์ส ชอบความจริงใจ ไม่ปลอม ]

Gen Z เป็นคนรุ่นแรกที่เป็น Digital Native จริงๆ เกิดและเติบโตมากับโลกยุคดิจิทัลและข้อมูลที่เปิดกว้าง โดย Gen Z ที่เด็กที่สุดตอนนี้พึ่งเรียนจบชั้นประถม ส่วนที่แก่ที่สุดอาจกำลังซื้อบ้านหลังแรกหรือมีลูกคนแรก พฤติกรรมการใช้จ่ายของ Gen Z จึงขึ้นอยู่กับช่วงวัยด้วย

อีกอย่างที่สำคัญ คือ Gen Z จะเป็นคนรุ่นที่มีประชากรฝั่งตะวันตกน้อยมาก โดยเฉพาะยุโรปกับอเมริกาเหนือที่มีประมาณ 10% ของประชากร Gen Z ทั้งหมดเท่านั้น ทำให้การใช้จ่ายจากฝั่งชาติตะวันตกมีสัดส่วนเพียง 44% ของคน Gen Z ทั้งหมด

นอกจากนั้น Gen Z เป็นคนรุ่นที่มีความหลากหลายสูงทั้งทางสังคมและค่านิยม เทียบกับ Gen Y แล้ว Gen Z ระบุว่าตัวเองเป็น LGBT มากกว่า 7.7%

สิ่งที่ Gen Z ให้คุณค่า คือ ความจริงใจ ความแน่แท้ เรียกง่ายๆ ว่า “ไม่ปลอม” สำหรับ Gen Z ‘การซื่อสัตย์ต่อตัวเอง’ ถือเป็นความสำเร็จอันดับหนึ่ง พวกเขาให้คุณค่ากับความเคารพตัวเองและการเป็นส่วนหนึ่ง

รวมถึงยังให้ความสำคัญกับ ‘ประเด็นทางสังคม’ มากๆ Gen Z ส่วนใหญ่สนใจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกร้อน และสิ่งแวดล้อม ไม่ซื้อของจากประเทศที่ไม่มีมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อม ไม่ช้อปฟาสต์แฟชัน ที่น่าสนใจ คือ Gen Z มักมองเศรษฐกิจร้ายกว่าคนรุ่นอื่นๆ อาจเพราะผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ที่ทำให้หลายคนรอบตัวของพวกเขาเสียงาน โดนตัดเงิน 

[ Gen Z ใส่ใจสุขภาพ ชอปช้อปทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ]

‘Spend Z’ บอกว่า หากดูตามหมวดหมู่สินค้า คาดว่าภายในปี 2030 กลุ่มสินค้าที่จะเติบโตและมีความต้องการมากที่สุดอยู่ในหมวด ‘แอลกอฮอล์’ และ ‘สุขภาพ’

โดย Gen Z จะเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตนี้ เพราะเข้าสู่วัยดื่มสุราได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจสุขภาพน้อยลง เพราะกว่า 50% มีแอปพลิเคชันฟิตเนสหรืออกกำลังกายอื่นๆ และ 17% ใช้อุปกรณ์ติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย

Gen Z เลือกสินค้าจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ คุณค่า คุณภาพ และความจริงใจ โดยไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์มากนัก สามารถเลือกซื้อแบรนด์ใหม่ๆ กลับบ้านได้ และแม้จะช้อปออนไลน์เก่งและได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียมาก แต่ Gen Z ก็ยังชอบช้อปหน้าร้านมากถึง 50%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา