ถ้าพูดถึงประเทศจีน หลายๆ คนคงพอจะทราบว่าเป็นประเทศที่ชาตินิยมมาก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชนิดที่ว่าต่อให้ไปเที่ยวเมืองนอก คนท้องที่ก็รู้ว่ามาจากจีน
แต่ทำไมประชากรที่รักชาติบ้านเกิดขนาดนี้ ถึงเริ่มย้ายถิ่นฐานออกนอกประเทศกันนะ?
จากรายงานของ Henley & Partners ในปี 2024 จีนกำลังเจอกับปรากฏการณ์ที่เศรษฐีอพยพออกนอกประเทศมากที่สุดในประวัติศาสตร์
มีการคาดคะเนว่า เศรษฐีจีนที่ร่ำรวยระดับพันล้านไปจนถึงหลายหมื่นล้านเลือกย้ายประเทศในปีนี้สูงถึง 15,200 คน ทุบสถิติปีก่อนที่มีอยู่ประมาณ 13,800 คน
สาเหตุหลักในการย้ายประเทศคือ ปัญหาเศรษฐกิจและความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ทำให้เศรษฐีจีนหลายคนเกิดความไม่สบายใจที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนเดิมต่อไป
ปัจจุบัน จีนกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ที่บั่นทอนความมั่งคั่งในประเทศ
แถมยังมีหนี้สินอีกมากมายจากรัฐบาล
แน่นอนว่า เมื่อเศรษฐีอพยพออกไปนับหมื่นคน มันก็ต้องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แย่เป็นทุนเดิมให้หนักขึ้นไปด้วย
เศรษฐีจีนย้ายไปไหนกัน?
ส่วนใหญ่แล้ว เศรษฐีสัญชาติจีนมักเลือกที่จะย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่ทางหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของอเมริกาก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขในส่วนนี้ได้
นอกจากสหรัฐฯ แล้ว คนจีนยังนิยมย้ายถิ่นฐานไปยังแคนาดาและสิงคโปร์เป็นอันดับรองลงมา
โดยสิงคโปร์เคยเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีความใกล้เคียงกับประเทศบ้านเกิด แถมยังพูดภาษาจีนกลางได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางสิงคโปร์ได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการตรวจสอบทรัพย์สินของคนจีนที่ย้ายเข้ามา
เมื่อไม่นานมานี้ สิงคโปร์เพิ่งปฏิเสธที่จะให้คนจีนสองคนตั้งออฟฟิศในประเทศ ซึ่งเป็นกลเม็ดปกติของพวกที่หนีคดีฟอกเงินแล้วหวังจะย้ายสัญชาติมาเป็นคนสิงคโปร์ด้วย
เมื่อสิงคโปร์เข้มงวดขึ้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็กลายเป็นปลายทางในฝันของคนจีน เพราะนอกจากจะไม่มีภาษีเงินได้แล้ว ยังมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบหรูหราและมีโครงการวีซ่าทองสำหรับนักลงทุนอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องให้คนจีนย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น พวกเขาก็ยอม
อ้างอิงจากที่ปรึกษาทางด้านการย้ายถิ่นฐาน ในตอนนี้ มีจำนวนคนจีน ทั้งชนชั้นสูงและชนชั้นกลาง อยากย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นเยอะขึ้นมาก
Andrew Amoils หัวหน้าแผนกวิจัยประจำ New World Wealth ให้เหตุผลว่า “ญี่ปุ่นนั้นน่าอยู่มาก มีทั้งสวนสาธารณะสวยๆ มีสนามกอล์ฟ แถมยังติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอีก”
ไม่ใช่แค่จีนที่เจอปัญหาคนรวยย้ายออก?
ปัญหาคนรวยย้ายออกนอกประเทศนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นกับจีนเพียงประเทศเดียว
Dominic Volek หัวหน้าแผนกคนสำคัญของ Henley & Partners เผยว่า ปี 2024 มหาเศรษฐีทั่วโลกกว่า 128,000 คนมีแนวโน้มที่จะย้ายถิ่นฐาน
ปี 2023 เศรษฐีฮ่องกงราวๆ 500 คนได้ย้ายออกนอกประเทศ เนื่องจากเกรงว่าอีกหน่อยประชาชนอาจไร้สิทธิ์ไร้เสียงกันมากขึ้น และพวกผู้มีอำนาจอาจเหิมเกริมกันหนักกว่าเดิม
ด้านสหราชอาณาจักรก็ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะมีชนชั้นร่ำรวยย้ายออกถึง 9,500 คน นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดรองจากประเทศจีน
นอกจากนี้ ในปี 2024 มีการคาดคะเนไว้ว่าจะมีประชากรย้ายออกจากเกาหลีใต้อีก 1,200 คน และออกจากไต้หวันอีก 400 คน
อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานก็ไม่สามารถการันตีตัวเลขได้แน่นอน เนื่องจากหลายๆ คนกำลังรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอยู่
หากโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกเลือกตั้งให้เข้ามาเป็นผู้นำอีกรอบ ประชาชนในประเทศอื่นๆ ก็กังวลว่าเขาอาจจะไม่มาช่วยหนุนกองทัพของไต้หวันในการต่อกรกับจีน รวมถึวอาจไม่สนับสนุนเกาหลีใต้ในความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ
Volek กล่าวว่า “เมื่อทั้งโลกต้องเผชิญกับปัญหาทั้งด้านความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐีทั้งหลายก็ต้องเอาตัวรอดด้วยการย้ายประเทศ
แน่นอนว่า การอพยพของคนกลุ่มนี้จะทำให้ความมั่งคั่งและอิทธิพลของประเทศที่พวกเขาย้ายออกมาและกำลังจะย้ายเข้าต้องเปลี่ยนไป ซึ่งมันจะส่งผลกระทบออกไปในวงกว้างด้วย”
แหล่งอ้างอิง: NIKKEI Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา