ตลาด Fast Fit 2 หมื่นล้านระอุ Autobacs ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ท้าชน B-Quik ชิงดำเบอร์ 1 ใน 5 ปี

หลังทดลองตลาดในประเทศไทยนับสิบปี Autobacs เบอร์หนึ่งธุรกิจ Fast Fit จากญี่ปุ่น ด้วยรายได้กว่า 62,000 ล้านบาท ก็เตรียมรุกตลาดที่นี่เต็มตัว แถมประกาศชัดว่าจะเขี่ย B-Quik เบอร์หนึ่งของตลาดนี้ลงได้ภายใน 5 ปีอีกด้วย

ภาพจาก Facebook ของ Autobacs Thailand

ได้ทุนจากปั๊ม PT ต่อยอดบริษัทแม่

อย่างที่นำเสนอข่าวไปว่า กลุ่ม PTG หรือผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน PT ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทที่บริหารงาน Autobacs ในประเทศไทยทั้งสิ้น 38% คิดเป็นมูลค่า 65 ล้านบาท พร้อมกับการเป็นพันธมิตรในการขยายสาขาภายในสถานีบริการน้ำมันอีกด้วย นั้นเท่ากับว่าจากที่ Autobacs เป็นเบอร์รองๆ ในตลาดมานาน ผ่านสาขาเพียง 8 แห่ง ก็กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวทันที

รัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามออโต้แบคส จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในการทำตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ได้เข้าไปทดลองทำตลาดทั้งที่ฝรั่งเศส, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และอื่นๆ จนเมื่อได้ทีมงานขยายตลาดต่างประเทศมาครบ ประกอบกับมีพันธมิตรชัดเจน และความพร้อมของตลาดประเทศไทย จึงตัดสินใจรุกตลาดไทยเต็มที่

“ทางญี่ปุ่นก็พร้อม และในประเทศไทยก็ยังไม่มี Fast Fit ในลักษณะนี้ หรือเป็นการควบคุมคุณภาพ และมีสินค้าจากญี่ปุ่นมาจำหน่าย โดยเราตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 5 ปีจะสามารถกระจายสาขาออกไปได้ 240 แห่ง โดยอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน PT ราว 100 แห่ง ซึ่งมากกว่าเบอร์หนึ่งในตลาดตอนนี้ที่มีหลักร้อยกว่าสาขา และเราก็ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งแทน”

ภาพโดย 全国オートバックスファン倶楽部 (Own work) [CC BY-SA 3.0 (http://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0) or GFDL (http://www.gnu.org/copyleft/fdl.html)], via Wikimedia Commons

โตก้าวกระโดด ปีนี้มากกว่าปีก่อน 40%

สำหรับเรื่องรายได้ในปีนี้จะเติบโตราว 40% จากปี 2559 เพราะได้ทุนจากกลุ่ม PTG และบริษัทแม่เข้ามาขยายสาขา และสิ้นปีคงปิดได้ 40-50 แห่ง ดังนั้นเมื่อสาขาเพิ่ม การที่ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็มีโอกาสสูง ประกอบกับตลาดรถยนต์ยังเติบโตอยู่ก็น่าจะช่วยให้ตัวธุรกิจนี้เติบโตเช่นกัน

ภาพรวมของตลาดศูนย์บริการรถยนต์แบบ Fast Fit ปัจจุบันมีมูลค่าราว 15,000-20,000 ล้านบาท มี B-Quik เป็นผู้นำตลาดในเรื่องยอดขาย ผ่านรายได้กว่า 6,000 ล้านบาท ดังนั้นการที่ Autobacs จะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดนี้ ก็จำเป็นต้องมีรายได้มากกว่า 6,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า

ผู้ให้บริการญี่ปุ่น ย่อมเข้าใจรถญี่ปุ่นกว่า

“ตลาด Fast Fit มันเติบโตตามตลาดรถยนต์ที่ 4-7% และยิ่งเราเป็นบริษัทญี่ปุ่น การชูเรื่องเข้าใจรถยนต์ญี่ปุ่นที่มีเยอะในตลาดมากกว่าผู้เล่นอื่นก็ทำได้ และช่องว่างของตลาด Fast Fit กำลังมา เพราะผู้ใช้รถก็ไม่อยากเอาเข้าศูนย์ที่มีราคาสูง และไม่ไว้ใจช่างในอู่ ดังนั้นการสร้างความเชื่อใจให้กับธุรกิจนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญ ไม่ใช่ราคา ในการทำให้เราเป็นเบอร์หนึ่งในอีก 5 ปี”

สรุป

บริการ Fast Fit นั้นมีโอกาสอยู่ในตลาดค่อนข้างมาก เพราะใครๆ ก็อยากได้ราคากลางๆ กับคนที่ไว้ใจได้มายุ่งกับรถของเรา ดังนั้นเชื่อว่าหลังจากนี้ ผู้เล่นหน้าเดิมในตลาดคงมีการส่งโปรโมชั่น หรือเรื่องอื่นๆ มารับน้องใหม่ ที่อาจไม่ใช่น้องใหม่มากนักอย่าง Autobacs แน่ๆ และคงต้องดูกันปีหน้าด้วยว่า การลงทุนของผู้เล่นจากญี่ปุ่นรายนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา