เมื่อนึกถึงร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาในประเทศไทย Supersports คงเป็นหนึ่งในชื่อแรก ๆ ที่ถูกเอ่ย เพราะด้วยจำนวนสาขาที่มากถึง 92 แห่ง และการทำตลาดมานานเกือบ 30 ปี จึงไม่แปลกที่ชื่อของ Supersports จะเป็นที่จดจำ และไว้ใจจากผู้บริโภคในประเทศไทย
วันนี้ Supersports แจ้งอย่างเป็นทางการว่าเป็นเบอร์ 1 ในแง่ยอดขายของภาพรวมตลาดค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาในประเทศไทย และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ จึงลงทุนอีก 250 ล้านบาท ในปีนี้ เพื่อปรับภาพลักษณ์สาขาเป็นรูปแบบใหม่ ควบคู่กับการดึงแบรนด์อุปกรณ์กีฬา และสินค้าลิขสิทธิ์จากทีมกีฬาชั้นนำมาจำหน่ายเพิ่ม
Supersports ภายใต้การบริหารของ อเล็กซองต์ อัมเบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด เจ้าของร้าน Supersports วางเป้าหมายไปถึงองค์กรที่มียอดขาย 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2025 แต่การไปถึงเป้าหมายนั้นต้องใช้กลยุทธ์ใดบ้าง Brand Inside ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้ดังนี้
จากศรีราชา สู่เบอร์ 1 ค้าปลีกอุปกรณ์กีฬา
อเล็กซองต์ อัมเบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้าน Supersports และธุรกิจในเครือ บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น เล่าให้ฟังว่า จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 1997 หรือ 27 ปีก่อน Supersports เปิดสาขาแรกที่เมืองศรีราชา และสร้างหมุดหมายใหม่ในตลาดค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาให้ประเทศไทย
ถึงวันนี้ Supersports เป็นธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาอันดับ 1 ของประเทศไทย ผ่านการกินส่วนแบ่งยอดขายตลาดดังกล่าวปี 2023 ที่มีมูลค่า 35,000 ล้านบาท ในสัดส่วน 25% หรือราว 8,750 ล้านบาท ผ่านสาขา 92 แห่งทั่วประเทศ โดยทั้งหมดตั้งอยู่ในธุรกิจค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล
“เพื่อคงความเป็นผู้นำของตลาด Supersports ตัดสินใจเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่อีกครั้ง ผ่านการปรับรูปแบบสาขาใหม่ ใช้เวลาในการวิจัย และพัฒนาราว 1.5 เพื่อออกแบบให้หน้าร้านตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบในการเล่นกีฬาประเภทต่าง และทำให้กีฬาสามารถเข้าถึงทุกคนได้จริง”
ลงทุน 250 ล้านบาท ปรับปรุงสาขาใหม่
ปี 2024 Supersports จะลงทุนราว 250 ล้านบาท เพื่อเปิด 2 สาขาใหม่ที่นครปฐม และนครสวรรค์ ควบคู่กับการปรับปรุงสาขาดั้งเดิม เช่น เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลเวสต์เกท และเมกะบางนา ให้เป็นสาขารูปแบบใหม่ รวมถึงเพิ่มจำนวนแบรนด์สินค้า และสินค้าลิขสิทธิ์จากทีมกีฬาเข้ามาเพิ่ม
ปัจจุบัน Supersports มี 10 หมวดหมู่สินค้า เช่น วิ่ง, ฟุตบอล, แรคเก็ต (เทนนิส และแบดมินตัน) และกอล์ฟ เป็นต้น ส่วนแบรนด์ที่ Supersports เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย เช่น Reebok, Columbia, Merrell และสินค้าลิขสิทธิ์จากสโมสรกีฬา เช่น Liverpool และ Tottenham Hotspurs
สำหรับภาพรวมตลาดค้าปลีกอุปกรณ์กีฬานอกจาก Supersports ที่เป็นร้านขนาดใหญ่ และมีหลายสาขา ยังมี Sport Mall ในเครือเดอะมอลล์, Sportsworld ของ บริษัท แอคทีฟ เนชั่น จำกัด และ Decathlon ผู้ผลิต และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาจากฝรั่งเศส ที่เหลือจะเป็นกลุ่มร้านรายย่อยของคนไทย เช่น Ari หรือ REV RUNNR เป็นต้น
2024 ตั้งเป้าเติบโต 9-10% และโตเหนือตลาด
เล็น เลิศสุมิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด เสริมว่า จากกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ปี 2024 Supersports ตั้งเป้าธุรกิจเติบโต 9-10% จากปี 2023 เติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดนี้ที่อาจเติบโต 7-8% ผ่านกระแสการออกกำลังที่มากขึ้น และมหกรรมกีฬาปีนี้ เช่น โอลิมปิก และฟุตบอลยูโร
ขณะเดียวกันการที่ผู้บริโภคในประเทศไทยมองกีฬาเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์มากขึ้น ช่วยสร้างโอกาสการจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาได้อีกทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่การเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ แต่เล่นกีฬาเพื่อผ่อนคลาย และสร้างสังคม พร้อมพบปะผู้คนใหม่ ๆ รวมถึงความอิสระในการแต่งกายเวลาทำงาน ทำให้เครื่องแต่งกายจากแบรนด์กีฬาเป็นที่นิยมมากขึ้น
และเพื่อทำให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงการเล่นกีฬาได้ง่ายขึ้น Supersports ได้สร้างสินค้า Private Brand ของตัวเองในชื่อ S Sports ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า, รองเท้า และอุปกรณ์กีฬา เช่น ลูกแบดมินตัน และดัมเบล เป็นต้น ผ่านราคาที่สมเหตุผล โดยสินค้ากลุ่มนี้คิดเป็นยอดขาย 4-5% ของบริษัท และปี 2027 จะเพิ่มเป็น 10%
2025 ปั้นรายได้องค์กรแตะ 10,000 ล้านบาท
เล็น เสริมว่า ในปี 2025 Supersports ตั้งเป้าทำรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท เป็นครั้งแรกขององค์กร โดยการไปถึงเป้าหมายนั้นบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับแบรนด์สินค้าอุปกรณ์กีฬาให้มาจำหน่ายในร้าน รวมถึงเป็นตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ที่น่าสนใจอื่น ๆ
“การไปถึงเป้าหมายนั้นเราต้องเจอกับความท้าทายที่แบรนด์ต่าง ๆ ก็มาเปิดร้านของตัวเองในประเทศไทยมากขึ้น และพยายามดึงลูกค้าเข้าร้านของพวกเขา แต่ Supersports มองว่า ร้านของเราเป็นร้านที่รวมทางเลือกต่าง ๆ เอาไว้ และถ้าลูกค้าต้องการเปรียบเทียบสินค้า Supersports ก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก”
ปัจจุบันสัดส่วนยอดขาย Supersports แบ่งเป็นกรุงเทพ และปริมณฑล 45% ที่เหลือมาจากต่างจังหวัด ส่วนถ้าแบ่งเป็นช่องทางจะพบว่ามีสัดส่วนจากช่องทางออนไลน์เพียง 10% ที่เหลือเป็นการจำหน่ายที่หน้าร้าน ผ่านการซื้อต่อครั้ง หรือ Basket Size ที่ 1,500 บาท โดยเฉลี่ย แต่ในเขตกรุงเทพจะอยู่ราว 2,000 บาท
ศึกษาโมเดล Standalone มองยักษ์จากสหรัฐฯ เป็นต้นแบบ
อเล็กซองต์ ทิ้งท้ายว่า Supersports อยู่ระหว่างศึกษาการเปิดหน้าร้านในรูปแบบ Standalone จากเดิมที่ทุกสาขาตั้งอยู่ในศูนย์การค้า โดยอาจใช้โมเดล Dick Sporting Goods ธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์กีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเป็นต้นแบบ
“เรื่อง Standalone เราอยู่ระหว่างพิจารณา เพราะถ้าทำก็อยากทำให้มันดี ยิ่งตอนนี้ลูกค้ามี Segmentation มากขึ้น ความท้าทายของเราก็คือการตอบโจทย์ลูกค้าเหล่านั้นให้ได้จริง ซึ่งปีนี้เราจะใช้แคมเปญ Find What Move You ในการสื่อสารแบรนด์ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานวิ่งประจำปี, การแข่งขันกอล์ฟ และคลินิกกีฬา”
ทั้งนี้การเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Supersports จะเลือกแบรนด์ที่เน้นใช้เพื่อการกีฬามากกว่าไลฟ์สไตล์ เนื่องจาก บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น มี เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป หรือ CMG เป็นผู้นำเข้าสินค้าไลฟ์สไตล์อยู่แล้ว ทำให้ยอดขายของ Supersports หลัก ๆ จะมาจากสินค้ากลุ่มกีฬาวิ่ง, รองเท้าลำลอง, ฟุตบอล และกอล์ฟ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา