เรียกว่าจะพึ่งพิงแค่การขายน้ำมันคงไม่ได้แล้ว เพราะผ่านมา 5 เดือนตลาดนี้การขายน้ำมันในไทยเติบโตเพียง 1.3% และคงไม่แปลกที่ทุกปั๊มจะหันมาลุยตลาด Non-Oli มากขึ้น โดยรายล่าสุดที่ออกมาประกาศ Direction อย่างชัดเจนก็คือ Shell
Non-Oil สำคัญในธุรกิจปั๊มน้ำมันยุคนี้
ปกติแล้วธุรกิจ Non-Oil ในปั๊มน้ำมันก็จะเป็นร้านค้าต่างๆ แต่หากจะมีคนเข้ามาใช้บริการได้ หลักๆ ก็ต้องมี Location ที่ดี ประกอบกับสูตรน้ำมันที่จูงใจ เพื่อดึงผู้บริโภคเข้ามาในปั๊มก่อน โดยเฉพาะปั๊มน้ำมันในกรุงเทพ และถ้าเป็นต่างจังหวัดแล้วจะต่างกัน เพราะตัว Non-Oli ทั้งร้านสะดวกซื้อ กับเบอเกอรี่ จะเป็นตัวช่วยดึงผู้ใช้บริการเข้ามาในปั๊มด้วย ไม่ใช่แค่สูตรน้ำมัน
อรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก ประจำประเทศไทย บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เล่าให้ฟังว่า การสร้าง Consumer Journey ให้กับผู้ใช้บริการถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกภายในปั๊มน้ำมัน เนื่องจากช่วยสร้างประสบการณ์ไม่สิ้นสุด หากมีการวางแผนทั้งภายในปั๊มน้ำมัน และระหว่างปั๊มที่ผู้บริโภคจะผ่านระหว่างทาง
ซึ่งปัจจุบัน Shell ในประเทศไทยมีธุรกิจ Non-Oil ทั้งหมด 2 แบรนด์ ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน Shell จำนวน 517 แห่งทั่วประเทศทั้งหมด ประกอบด้วยร้านค้าสะดวกซื้อ Select จำนวน 80 สาขา กับร้านเบอเกอรี่ Deli Café จำนวน 51 สาขา โดยทั้งสองธุรกิจจะมีการพัฒนาให้ดีขึ้นตามยุคสมัย และอยู่ระหว่างวางแผน โดยจะพร้อมเปิดเผยรายละเอียดเร็วๆ นี้
ปรับภูมิทัศน์ภายในปั๊ม ยกระดับความสะดวก
ขณะเดียวกัน Shell มีแผนปรับภูมิทัศน์ภายในปั๊มน้ำมัน ทั้งที่ให้บริการอยู่ และกำลังจะเปิดให้บริการหลังจากนี้ เพื่อยกระดับความสะดวกในการเข้าใช้บริการ พร้อมสร้างเงินสะพัดภายในปั๊มได้มากขึ้น เช่นการวางหัวจ่าย, ร้านค้า และห้องน้ำ ให้มีทางเดินที่ไหลไปได้ในทางเดียวกัน เพื่อสร้างโอกาสการจำหน่ายสินค้าต่างๆ
นอกจากนี้ทางบริษัทมีแผนขยายปั๊มน้ำมันใหม่อย่างน้อย 30 แห่ง/ปี โดยปี 2560 จะเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 40 แห่ง มีทั้งบริษัทลงทุนเอง และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการเปิดให้บริการ โดยหนึ่งในนั้นคือการเปิดสาขาปั๊มน้ำมันพรีเมียม หรือจำหน่ายแค่น้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่ม V-Power Gasohol 95 กับ V-Power Diesel ซึ่งจะเปิดในต่างจังหวัดเพิ่ม จากที่มี 2 แห่งในกรุงเทพ
รักษาเบอร์ 3 ผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทย
อัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด บอกว่า แม้ภาพรวมตลาดการค้าน้ำมัน 5 เดือนแรกจะเติบโตเพียง 1.3% แต่ทางบริษัทสามารถเติบโตเหนือตลาดได้เล็กน้อย พร้อมกับมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 3 ของผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทย ผ่านส่วนแบ่ง 12.7-13% รองจากปตท. และบางจากที่เป็นเบอร์ 1 กับ 2 ตามลำดับ
สรุป
ถ้าเทียบความ Active ของธุรกิจ Non-Oil กับปั๊มอื่นๆ ต้องบอกว่า Shell ค่อนข่างไม่ค่อยขยับตัวอะไรมากนัก แต่เชื่อว่าหลังจากนี้คงมีแผนใหม่ๆ เพื่อใช้ Non-Oil ดึงลูกค้าได้มากกว่าเดิมแน่ เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว V-Power นั้นสร้างความแตกต่างให้กับสมรรถนะในการขับขี่จริงๆ แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น และถ้าคนมีกำลังทรัพย์มาอยู่ที่ปั๊มนานกว่าเดิม หากมีสิ่งอื่นๆ มาดึงดูดพวกเขาได้ โอกาสที่เงินจะสะพัดภายในปั๊มมากขึ้นก็มีสูง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา