ดูบอลออนไลน์เดือด beIN ให้ทุกเครือข่ายชม Premier League และบอลยุโรปผ่านแอป เริ่มต้น 199 บาท/ด.

แม้ราคาสูงกว่าผู้ซื้อลิขสิทธิ์ Premier League และฟุตบอลยุโรปรายการอื่นอย่าง True ที่ “เคย” ให้บริการเพียง 29 บาท/เดือน แต่ผู้ถือลิขสิทธิ์ตัวจริง beIN ก็เปิดกว้างให้ทุกเครือข่ายชมฟุตบอลแบบถูกลิขสิทธิ์บนออนไลน์ ราคา 199 บาท/เดือน

โอกาสมหาศาลในบริการ Live Streming

ปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศไทยเริ่มคุ้นเคยกับการรับชม Video on Demand ในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น เพราะมีผู้เล่นทั้งไทย และเทศต่างขนคอนเทนต์ชั้นนำมาให้บริการ ทั้งแบบฟรี และคิดค่าบริการรายเดือน แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นคอนเทนต์ภาพยนตร์ และซีรีส์ ไม่ค่อยมีผู้ให้บริการรายการกีฬา จึงกลายเป็นโอกาสขนาดใหญ่ของกลุ่ม beIN ที่ถือลิขสิทธิ์รายการกีฬาไว้จำนวนมาก

Mike Kerr กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย บีอิน เอเชีย แปซิฟิก เล่าให้ฟังว่า นอกจากเรื่องผู้บริโภคที่คุ้นชินกับ Video on Demand ยังมีผู้ซื้อลิขสิทธิ์กับบริษัททั้ง True Vision ที่เป็น Pay TV และ PPTV ที่เป็น Free TV ดังนั้นการนำบริการ beIN Sports Connect มาตอบโจทย์การรับชมผ่านออนไลน์ น่าจะเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้

Mike Kerr กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย บีอิน เอเชีย แปซิฟิก

สำหรับตัว beIN Sports Connect สามารถใช้งานผ่าน Application บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android รวมถึงผ่านหน้าเว็บไซต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยภายในบริการจะประกอบด้วยช่องรายการทั้งหมด 4 ช่อง หรือ beIN Sports 1-4 ที่แพร่ภาพฟุตบอลรายการต่างเช่น Premier League, La Liga, Serie A และ Uefa Champion League

ค่าบริการ 49-1,599 บาท คนไทยรับได้

อย่างไรก็ตามบริการดังกล่าวไม่ได้เปิดให้รับชมฟรี แต่จะคิดค่าบริการ 49 บาท/วัน, 99 บาท/สัปดาห์, 199 บาท/เดือน หรือ 1,599 บาท/ปี แล้วแต่ผู้ใช้จะสมัคร ส่วนการชำระเงินสามารถตัดผ่านบัตรเครดิตได้ จากนั้นจะเปิดให้ชำระผ่านร้านสะดวกซื้อ หรือมีบัตรเติมเงินออกมาเพิ่ม โดยตัวบริการสามารถรับชมได้ทุกเครือข่าย ต่างกับของ True ที่ให้ชมแค่ผู้ใช้ True เท่านั้น

“เราไม่ได้มาแทน Pay TV หรือคนที่ซื้อลิขสิทธิ์เราไป แต่เป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันมากกว่า เพราะเราอยู่ที่ไหนก็ดูได้ และจากที่ Soft Lunch ไปเมื่อเดือนมี.ค. ก็มีผู้สมัครเข้ามาจำนวนหนึ่ง ก็ยอมรับว่าระบบยังไม่เสถียรนัก แต่มาคราวนี้เราพร้อม และยกเครื่องใหม่ พร้อมกับเพิ่มระบบ Catch Up เพื่อรับชมรายการย้อนหลังได้ ทำให้แม้ไม่ได้ดูสด ก็ยังมีเทปให้ดู”

Monitor การละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ตลอด

จากความง่ายของการเข้าถึงรายการกีฬา ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่ง beIN ในฐานเจ้าของลิขสิทธิ์ก็มีการเฝ้าระวังเรื่องนี้ทั้งบนโลก Offline เช่นการลักลอบใช้แพลตฟอร์มข้างต้นไปแพร่ภาพตามร้านอาหาร และโลก Online เช่นการนำรายการไป Live Streaming บน Social Media แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีมาตรการจัดการที่ชัดเจน

สรุป

ถือเป็นอีกตลาดที่มีผู้เล่นน้อย เพราะรายการกีฬานั้นแทบไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์เข้ามาเล่นเองอย่างเป็นทางการ เช่น Fox ก็ไม่มีแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่ไปเกาะกับ AIS Play ดังนั้นการที่ผู้ถือลิขสิทธิ์เข้ามาทำตลาดเองอย่างนี้ ก็คงสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดไม่น้อย แต่คงกระทบกับคนที่ซื้อลิขสิทธิ์กีฬาอื่นๆ ในอนาคตแน่ๆ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าของตัวจริงจะลงมาเล่นเมื่อไหร่

ทั้งนี้ beIN Sports Connect จะให้บริการในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ พร้อมกับประเทศไทย และในเดือนต.ค. นี้เตรียมเปิดให้บริการในอินโดนีเซีย โดยในไทยนั้น beIN มีการลงทุนสร้าง Studio เพื่อให้อรรถรสในการรับชมที่มากขึ้น พร้อมกับสื่อสารการตลาดทั้งช่องทาง Online และ Offline เช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา