Rolex แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มอีก จนทำยอดขายพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์
Morgan Stanley และ LuxeConsult เผยตัวเลขคาดการณ์ว่า ในปี 2023 ที่ผ่านมา Rolex ผลิตนาฬิกาไปทั้งหมด 1.24 ล้านเรือน ทำยอดขายไป 1.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 4.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 11% ทำให้ส่วนแบ่งของแบรนด์ในตลาดสินค้าหรูอยู่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
Rolex มีส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกมากกว่า 30% ท่ามกลางกลุ่มลูกค้าที่มีฐานะร่ำรวยที่ชื่นชอบนาฬิกาหรู Rolex เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรการกุศลชื่อ Hans Willsdorf มาจากชื่อผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ในปี 1908
Morgan Stanley และ LuxeConsult มองว่า ไม่มีแบรนด์อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันที่จะสามารถเข้ามาครองตำแหน่งของ Rolex ได้ แบรนด์ยังคงเป็นอันดับ 1 ที่มียอดขายมากกว่ายอดขายของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับรองลงมารวมกัน คือ Cartier, Omega , Audemars Piguet, Patek Philippe และ Richard Mille
นอกจาก Rolex แล้ว แบรนด์นาฬิกาที่ระดับราคาลดลงมาอย่าง Tudor ที่อยู่ภายใต้องค์กรเดียวกันก็มียอดขายอยู่ที่ 616 ล้านเหรียญหรือราว 2.2 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา
รายงานเผยว่า ยอดขายนาฬิกาหรูจากสวิสเซอร์แลนด์ขับเคลื่อนจะแบรนด์ที่มียอดขายต่อปีมากกว่า 1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (ราว 1.1 หมื่นล้านเหรียญ) อย่าง Vacheron Constantin ก็มียอดขายแตะ 1 หมื่นล้านฟรังก์เป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา
นอกจากบริษัท Swatch Group เจ้าของแบรนด์ Swatch และอีกหลายแบรนด์ยังขายนาฬิการุ่น MoonSwatch ได้มากกว่า 2 ล้านเรือนในปี 2023 และมียอดขายนาฬิกาของแบรนด์ทั้งหมดภายใต้บริษัท 5.8 ล้านเรือนโดยมีราคาเฉลี่ยเรือนละ 5,700 บาท จากความสำเร็จของ MoonSwatch ที่เป็นความร่วมมือกับ Omega ทำให้ Swatch กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดติดกัน 2 ปี
ตัวเลขยอดขายเป็นการคาดการณ์ของ Morgan Stanley และ LuxeConsult เนื่องจากแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์รวมถึง Rolex ไม่ได้เปิดเผยยอดขายประจำปีต่อสาธารณะ
ที่มา – Bloomberg
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา