ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริงในการผลิตเหล็ก (Think beyond Steel) ทำให้ กลุ่มบริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILLCON สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น จากปกติอุตสาหกรรมเหล็กจะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีทางการผลิตเป็นหลัก แต่ MILLCON เพิ่มความสนใจในเทคโนโลยีอื่นๆ เพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ
สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและ CEO ของ MILLCON ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่ เรียกว่า TRANSFORMILLCON ยิ่งทำให้เรื่องราวดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ว่าอะไรคือความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำอย่างไรและมีผลต่อ MILLCON อย่างไร เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับองค์กรต่างๆ
สำรวจภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็ก ทิศทางกำลังดีขึ้น
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็กไทย โดยรวมดีขึ้นในแง่ของราคาขาย เนื่องจากราคาวัตถุดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น จากโครงการภาครัฐ ดังนั้นแนวโน้มในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก แม้จะเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจก่อสร้าง และงานภาคเอกชนจะยังหดตัวอยู่ก็ตาม
เวลานี้เอง ถือเป็นโอกาสดีที่องค์กรธุรกิจจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ให้พร้อมรับกับตลาดที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต ซึ่ง MILLCON มองเห็นโอกาสนี้ และเริ่มต้น TRANSFORMILLCON ในทันที
ผลิตเหล็กแบบครบวงจร ขยายธุรกิจ คุมคุณภาพได้ดีกว่า
สิทธิชัย บอกว่า จากจุดเริ่มต้น MILLCON ผลิตเหล็กปลายน้ำ คือเหล็กเส้นสำหรับธุรกิจก่อสร้าง แต่เมื่อมองเห็นโอกาส และจะส่งผลดีต่อธุรกิจมากกว่า ถ้าสามารถควบคุม จัดการคุณภาพ และหลีกเลี่ยงความผันผวนของราคาและตลาดวัตถุดิบ จึงขยายธุรกิจมาผลิตเหล็กแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้าง Supply Chain และ Value Chain ให้เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเหล็กเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่มีสัดส่วนกำไร (Margin) ต่อชิ้นไม่สูงนัก ทำให้ต้องผลิตในปริมาณมาก ดังนั้นจึงต้องเพิ่มมูลค่า เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการสูญเสีย นอกจากต้องใช้เทคโนโลยีด้านการผลิตอยู่แล้ว เช่น การใช้ระบบ Automation และ Robot เข้ามาช่วยในการผลิต
MILLCON ยังให้ความสนใจในเทคโนโลยีอื่นๆ นอกเหนือจากแค่เทคโนโลยีการผลิตจากเครื่องจักร เช่น การใช้ แอปพลิเคชั่นในการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีอินฟาเรด เพื่อ Predict Maintenance Period ยิงแสงอินฟาเรดเข้าไปในเครื่องจักรเพื่อประเมินสถานะในการซ่อมบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ทั้งหมดคือสิ่งที่ MILLCON เดินหน้าก่อนคนอื่น พัฒนาไปก่อนคนอื่น ทำให้มีความล้ำหน้า และส่งเสริมให้ธุรกิจหลักมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
เทคโนโลยีดิจิทัล เสริมประสิทธิภาพ
สำหรับธุรกิจหลักของ MILLCON มี 3 กลุ่มใหญ่ คือ
- Construction Material ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง คือเป็นธุรกิจหลักเดิม
- Special Steel กลุ่มเหล็กเกรดพิเศษ เช่น น็อต สกรู และผลิตเพื่อส่งเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์
- Supporting Core Business เป็นธุรกิจที่ลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักทั้ง 2 เช่น BusDuct ใช้ทดแทนสายไฟ หรือ Solar Roof หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งการลงทุนจะเน้นใน 3 กลุ่มเทคโนโลยี คือ Logistics Technology, Construction Technology และ Factory Technology
ในกลุ่มธุรกิจหลัก 2 ส่วนแรก เห็นการลงทุนและพัฒนาไปแล้ว แต่ในส่วน Supporting Core Business โดยเฉพาะการลงทุน ถ้าติดตามข่าวมาโดยตลอดจะรู้ว่า MILLCON ได้ลงทุนใน Builk.com ซึ่งเป็น Online Platform หรือเรียกว่าเป็น Marketplace สำหรับวัสดุก่อสร้าง มีส่วนทำให้ MILLCON สามารถเข้าถึงผู้ใช้ในระดับ End User ได้มากขึ้น ทำให้เกิดการค้าแบบ B2B ในกลุ่มลูกค้าระดับ SME มากขึ้น เพิ่มช่องทางการทำตลาดให้กับกลุ่มบริษัท และยังได้องค์ความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับการใช้งานออนไลน์
อีกเทคโนโลยีที่หลายคนอาจจะไม่เชื่อ คือ การใช้ Virtual Reality หรือ VR และ Mobile Application มาช่วยให้เห็นภาพเสมือนในโรงงานจริงแบบ 360 องศา ได้เห็นขั้นตอนการผลิตอย่างใกล้ชิด ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ปลอดภัย เปิดประสบการณ์ให้ผู้ที่สนใจได้เห็นขั้นตอนการผลิตเหล็ก ตั้งแต่กระบวนการหลอมจนกลายเป็นสินค้าสำเร็จรูป และได้เรียนรู้การเตรียมตัวอย่างปลอดภัยก่อนเข้าโรงงานด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถdownload ได้ทั้ง ios และ android search ‘Millcon Tour’
การปรับเปลี่ยน “คน” คือกลยุทธ์สำคัญเช่นกัน
สิทธิชัย เล่าถึงการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรว่า การจะทำ TRANSFORMILLCON ได้นั้น หัวใจสำคัญคือ “คน” หรือ บุคลากรภายใน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงต้องเริ่มต้นที่คน ตั้งแต่ทัศนคติในการทำงาน กล้าคิดนอกกรอบ ต้องยอมรับและปรับตัวเข้ากับนโยบายใหม่ เปิดใจพร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง
เมื่อบุคลากรและองค์กรสามารถเดินไปข้างหน้า ในทิศทางเดียวกันได้ ตอนนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้น ซึ่ง MILLCON มีการฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถยกระดับความสามารถ เท่ากับว่า การทำ TRANSFORMILLCON จึงสำเร็จ
สรุป
MILLCON เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแบบครบวงจรที่เป็นต้นแบบในการ Transformation หรือปรับเปลี่ยนองค์กรในทุกส่วน ซึ่งองค์กรอื่นๆ ควรศึกษา เพราะนี่คือโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตให้กับธุรกิจในระยะยาว เพื่อรับมือและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา