ปัจจุบันการส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารของประเทศไทยมีมูลค่าถึง 9 แสนล้านบาท แต่กว่า 80% ของมูลค่านี้ส่งไปที่ประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV ดังนั้นถ้าไม่ขยายตลาด และนำนวัตกรรมาต่อยอด โอกาสที่จะแข่งในตลาดนี้ก็ยากแน่นอน
ไม่ยกระดับ เท่ากับรอคู่แข่งแซง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ไทยส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารไปยังกลุ่มประเทศ CLMV หรือกัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม เป็นหลัก เพราะตัวพรมแดนอยู่ติดกัน ทำให้ส่งง่ายกว่าที่อื่น ประกอบกับมูลค่าของตัวสินค้าก็ไม่ได้สูงมาก เพราะเป็นแค่วัตถุดิบเฉยๆ ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มมูลค่าใดๆ
รุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ-ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า เศรษฐกิจไทยนั้นเน้นส่งออกเยอะ แต่ในฝั่งสินค้าเกษตร และอาหารนั้นจะส่งมากในพื้นที่อาเซียน แต่ไม่มีการแปรรูปใดๆ เช่นขายข้าวสารที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งต่างกับสินค้าประเภทเดียวกันในพื้นที่ยุโรป เพราะที่นั่นสร้างมูลค่าให้สินค้าค่อนข้างดี
“ขายข้าวเฉยๆ มูลค่ามันก็แค่ข้าว ต่างกับเกษตรกรยุโรปที่เริ่มนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ให้สินค้าเกษตรมีมูลค่ามากขึ้นเยอะ โดยเฉพาะวัตถุดิบปรุงอาหาร ที่ในประเทศไทยก็มีแค่องค์กรใหญ่ๆ ทำได้ แต่ถ้าเจาะไปที่กลุ่มเอสเอ็มอีแทบไม่มี แสดงให้เห็นว่าถ้าไม่ปรับปรุงอะไร โอกาสที่ไทยจะโดนประเทศเพื่อนบ้านแซงในเรื่องนี้ก็มีสูง”
จับมือกระทรวงวิทย์-ม.เกษตร ช่วยเอสเอ็มอี
จากปัจจัยดังกล่าว ยูบีเอ็ม เอเชีย จึงร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ภายใต้กระทรวงวิทย์ฯ กับ และคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีกที่มีแนวคิดเกี่ยวกับนวัตกรรมอาหาร รวมถึงกลุ่ม Startup รูปแบบ Agritech เข้ามาร่วมโครงการ Start-Up F&B Innovative Product Competition
โดยการเสนอผลงานเข้ามาจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสุขภาพ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-15 ส.ค. ประกาศผลรอบ 5 ทีมสุดท้าย 4 ก.ย. และประกาศผู้ชนะในวันที่ 14 ก.ย. มีรางวัลสูงสุด 80,000 บาท พร้อมสิทธิ์ในการแสดงผลงานภายในงาน Food Ingredients Asia 2018 ที่อินโดนีเซีย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา