ถ้านึกถึงแบรนด์อาหารแมวและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแมวระดับพรีเมียมที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และถูกพูดถึงอย่างมาก รวมถึงสามารถคว้ารางวัลที่มอบให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับสากล World Branding Awards 2023 มาครองได้สำเร็จแม้จะมีอายุแบรนด์เพียง 3 ปีเท่านั้น ทั้งหมดพุ่งเป้ามาที่ Kaniva (คานิว่า) แบรนด์ของคนไทยที่ได้ชื่อว่า พัฒนามาเพื่อตอบ Pain Point ของคนรักแมวโดยเฉพาะ
Kaniva เป็นหนึ่งแบรนด์ภายใต้ บริษัท เพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด จำกัด โดยมี 2 ผู้บริหารหนุ่มคือ นิติพงศ์ และ จารุวัฒน์ เลาหวิศิษฏ์ เป็นจุดเริ่มต้นและผู้กำหนดทิศทางให้กับแบรนด์ โดยมีแนวคิดที่เรียบง่ายว่า ทุกผลิตภัณฑ์ต้องพัฒนาขึ้นเพื่อตอบ Pain Point ทั้ง Pet parents และสัตว์เลี้ยง ต้องมีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ และต้องแตกต่างจากตลาด
brand inside มีโอกาสได้พูดคุยกับ จารุวัฒน์ เลาหวิศิษฏ์ เกี่ยวกับแนวคิดในการสร้างสรรค์ของ เพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด และ เพ็ท โพรเทคท์ ที่มีกว่า 700 ผลิตภัณฑ์ภายใต้กว่า 10 แบรนด์ในเครือ ซึ่ง Kaniva เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
พูดคุยกับคนรักแมว เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เพื่อแมวจริงๆ
จารุวัฒน์ เริ่มต้นเล่าถึงการไปเดินงานสัตว์เลี้ยง Pet Exhibition ต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ ในฐานะผู้บริหารเขามักจะไปเดินงานเหล่านี้ เพื่อให้ได้เจอกับผู้เลี้ยง หรือพูดง่ายๆ ว่า บรรดาทาสแมวทั้งหลาย เพราะต้องการได้ Insight จากผู้เลี้ยง ได้รู้ปัญหาและอุปสรรคที่เจอ ความต้องการที่แท้จริงของคนเลี้ยงและนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือผู้บริหาร
“ผลิตภัณฑ์หลายตัวสามารถพัฒนาเพิ่มเติม ต่อยอดออกรสชาติ จากการได้พูดคุยกับ Pet Parents ด้วยกัน ในอีกมุมหนึ่ง Pet Parents หลายคนจะรู้สึกดีใจที่จากการพูดคุย สุดท้ายมีผลิตภัณฑ์ที่เขาอยากได้ออกมาวางขายจริงๆ นี่คือสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า Kaniva สร้างขึ้นมาจาก Pain Point คนรักแมว”
อีกสิ่งที่ จารุวัฒน์ มองเห็นจากการไปเดินงานคือ คนรักแมว กล้าที่จะพาแมวออกมาเดินงานมากขึ้น ในอดีตงานจะเป็นคนเลี้ยงสุนัข เพราะสุนัขมีความเป็นสัตว์สังคมมากกว่า ชอบออกงาน ชอบเจอคน ต่างจากแมวที่ค่อนข้างเก็บตัว แต่ปัจจุบันสัดส่วนของคนรักแมวมางานเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
จุดนี้ต้องอธิบายเพิ่มว่า คนรักแมวเลี้ยงแมวไม่ได้น้อย แต่พาแมวมาออกงานน้อยกว่า แต่ต่อไปแมวจะเพิ่มสัดส่วนขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยงแมว เพราะ แมวไม่ต้องการเวลามากนัก สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และสามารถเลี้ยงบนคอนโดฯ ได้ ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม การจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จารุวัฒน์ เล่าว่า หลังจากได้รับรู้ Pain Point มาแล้ว หลายครั้งกลับมาทำวิจัยและพัฒนาหลายเดือน หรืออาจเป็นปี กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและดีจริงๆ ออกสู่ตลาด สำหรับเพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด ต้องบอกว่า ถ้าไม่ดีจริงๆ ไม่แตกต่างจริงๆ และไม่ตอบโจทย์คนรักสัตว์ เราไม่ทำ
ตัวอย่างแรก คือ อาหารสำหรับแมวเป็นนิ่ว ปัจจุบันแมวเป็นนิ่วมากขึ้น ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย เช่นการให้อาหาร และน้ำที่ไม่เหมาะสม พฤติกรรม ความเครียด ทุกอย่างอาจเป็นสาเหตุของการเป็นนิ่วได้ Kaniva จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิจัยและพัฒนาอาหารแมวที่เป็น Pro-Active คือ Kaniva Urinary Care เป็น Complete and Balance คือสามารถกินอาหารชนิดนี้เป็นอาหารหลักได้เลย ได้สารอาหารครบถ้วนและลดความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่ว และสามารถให้แมวกินได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือน
รวมถึงมีน้ำมันปลาแซลมอน และ น้ำมันดอกอีฟนิ่งพรีมโรส ที่มี Omega-3 และ 6 ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง ให้ขนสวยเงางาม สุขภาพดี
และทาสแมวบางคนอาจไม่รู้คือ แมวไม่สามารถย่อยและนำโปรตีนจากข้าวโพดไปใช้ได้ และอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในแมวบางตัวด้วย ซึ่ง Kaniva ไม่มีส่วนผสมจากข้าวโพด และ กลูเตน โดยเด็ดขาด
สร้างตลาดขึ้นจากความเข้าใจ และ ความต้องการของคนรักแมว
จารุวัฒน์ บอกว่า ถ้าดูในตลาดอาหารเปียกในไทยมีเป็นร้อยแบรนด์ให้เลือก แต่ทำไมผู้บริโภคต้องเลือกคานิว่า ดังนั้นถ้า Kaniva จะมีอาหารเปียก ก็ต้องมีความโดดเด่นและแตกต่าง จึงเป็นที่มาของการพัฒนา Vitamin Balls ซึ่งมีลักษณะเป็น Soft Jelly สูตรเฉพาะจากคานิว่าที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินบี 1, 3, 6 และ 9 (โฟลิก แอซิด) ช่วยบำรุงประสาทและสมอง และมีคุณค่าสารอาหารที่สำคัญ
ตัว Soft Jelly ผ่านการวิจัยและพัฒนา ทดสอบและทดลองมาอย่างพิถีพิถัน คือ ต้องมีขนาดเล็ก ความนิ่มที่พอเหมาะ แมวต้องกินได้ และกินแล้วต้องเห็นผลที่ดีอย่างชัดเจน
อาหารแมวที่ตอบโจทย์ผู้เลี้ยงและรู้ใจน้องแมว
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่าการสร้างเพ็ท โพรเทคท์ และเพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด เป็นเรื่องไม่ยาก จารุวัฒน์ บอกว่า ตรงกันข้ามเลย เพราะ 2 ปีแรกที่เริ่มต้นทำไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเจอกับอุปสรรคไม่น้อย ตลาดอาหารสัตว์แข่งขันกันสูงมาก ซึ่งแบรนด์ Kaniva ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองกว่าที่ผู้บริโภคจะเปิดใจรับและลองใช้จนเกิดการบอกต่อและซื้อซ้ำ
ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นทาสแมวของ จารุวัฒน์และพี่ชาย ที่ต้องการหาอาหารที่ดีที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดให้กับแมวของตัวเอง ดังนั้น ถ้าถามว่า Kaniva คืออาหารแมวที่ดีที่สุดหรือไม่ จารุวัฒน์ จะบอกทันทีว่า คำว่าดีที่สุดเป็นสิ่งที่พูดยาก เพราะแมวแต่ละตัว แต่ละสายพันธุ์ แต่ละช่วงอายุ มีความต้องการต่างกัน
แต่กล้าพูดได้ว่า Kaniva คือ ความตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดในทุกๆ สูตร และใช้เวลาในการพัฒนาสูตรอาหารเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจคน รู้ใจแมวจริงๆ
อนาคตของ Kaniva กับการลุยตลาดสากล
จารุวัฒน์ บอกว่า ประเทศไทย คือ แหล่งผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก เพราะมีความพร้อมเรื่องวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ต่างประเทศดังๆ มีโรงงาน OEM อยู่ในไทย แล้วทำไมจะมีอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ไทย ที่สามารถสร้างชื่อและทำตลาดในต่างประเทศไม่ได้
ถึงตอนนี้ Kaniva และแบรนด์ในเครือของเพ็ท โพรเทคท์ ออกไปทำตลาดกว่า 10 ประเทศแล้ว ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีครบทุกแห่ง และกำลังขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในอีกหลายประเทศ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะส่งให้ Kaniva ได้รับการยอมรับมากขึ้นในระดับสากล คือ การได้รับรางวัล World Branding Awards 2023 เรียกได้ว่าเทียบเคียงกับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ทั้งที่ Kaniva เริ่มต้นทำตลาดมา 3 ปีเท่านั้น
นี่คือ สิ่งที่พิสูจน์ถึงแนวทางที่ Kaniva ยึดถือและทำมาตลอด นั่นคือ ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงต้องไว้ใจและเชื่อใจในทุกผลิตภัณฑ์ ถ้าสินค้าไม่แตกต่างและไม่ตอบโจทย์ทั้งผู้เลี้ยง และสัตว์เลี้ยง สินค้านั้นจะไม่ออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา