แบงก์ชาติมองเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัว ชี้ 3 ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะต่อไป

ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย. 2023 อยู่ในทิศทางฟื้นตัวโดยภาคการท่องเที่ยวปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดย 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) อยู่ที่ 12.9 ล้านคน

อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำปรับเพิ่มขึ้นจากสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมทรงตัว สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เดือน มิ.ย. 2023 มูลค่าการส่งออกติดลบที่ 5.9% ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนตามการนำเข้า 

ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงหลังจากเร่งไปแล้วในเดือนก่อน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำตามการเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่เร่งไปแล้วในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับผลของฐานสูงที่มีการเบิกจ่ายงบกลางเพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19 ในปีก่อน และจากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคมและชลประทานที่ได้เร่งเบิกจ่ายไปแล้ว สำหรับรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวตามการเบิกจ่ายในโครงการลงทุนด้านพลังงานและคมนาคม

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน จากการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าทุนที่เร่งไปมากในเดือนก่อน และการลงทุนในหมวดก่อสร้างที่ลดลงจากยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากพื้นที่ฯ เพื่ออุตสาหกรรมและโรงงานเป็นสำคัญ

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากหมวดอาหารสดเป็นสำคัญ ตามราคาเนื้อสุกรและผักสด เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงจากผลของฐานสูงในราคาอาหารสำเร็จรูปและเครื่องประกอบอาหารเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานยังฟื้นตัว สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าที่ปรับดีขึ้น ประกอบกับดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลง ตามการส่งกลับกำไรและรายจ่ายทรัพย์สินทางปัญญาที่ลดลงจากเดือนก่อน ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยอ่อนค่าลง ตามค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด 

ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคบริการและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัว การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ 

ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงจากการผลิตยานยนต์และหมวดอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางและการลงทุนรัฐวิสาหกิจ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงจากผลของฐานสูงในปีก่อน ประกอบกับเงินเฟ้อในหมวดพลังงานลดลง ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล จากการส่งกลับกำไรและรายรับด้านการท่องเที่ยวที่ลดลงตามฤดูกาล ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลลดลง

ในระยะต่อไป มองว่ามีปัจจัยที่ต้องติดตาม 3 ปัจจัย ได้แก่

  1. เศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนและผันผวนสูง
  2. การจัดตั้งและนโยบายของรัฐบาลใหม่
  3. ผลของค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงต่อกลุ่มเปราะบาง

ที่มา ธปท.

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา