Unilever เบอร์ต้นในตลาดไอศกรีมโลก ชี้วิกฤติคลื่นความร้อนในพื้นที่ยุโรปไม่ส่งผลให้ยอดขายไอศกรีมเติบโต เหตุผู้บริโภคหันไปบริโภคเครื่องดื่มเย็นมากกว่า และถึงรายได้ครึ่งแรกปี 2023 จะเติบโต แต่มากจากการปรับขึ้นราคาของสินค้า ผ่านวิกฤติเงินเฟ้อ และวัตถุดิบขึ้นราคาจากสงครามรัสเซียยูเครน
Unilever ชี้ไอศกรีมไม่ได้โตตามคลื่นความร้อน
Graeme Pitkethly ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน Unilever แจ้งว่า หลายฝ่ายอาจมองเรื่องคลื่นความร้อนในกลุ่มประเทศยุโรปจะส่งผลดีต่อยอดขายไอศกรีมของบริษัท แต่จริง ๆ แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่ออากาศร้อนอย่างหนัก ผู้บริโภคจะเลือกซื้อเครื่องดื่มเย็น ๆ มากกว่าไอศกรีม
“อัตราการเลือกซื้อไอศกรีมเพื่อไปรับประทานที่บ้านหดตัวอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ผ่านการมีตัวแปรเรื่องเงินเฟ้อ และการคุมค่าใช้จ่ายของลูกค้า นอกจากเรื่องการเลือกดื่มเครื่องดื่มเย็น” โดยในครึ่งแรกของปี 2023 บริษัทมียอดขายไอศกรีมเพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน แต่มาจากการขึ้นราคาเป็นหลัก เพราะจำนวนนั้นปรับตัวลดลง
ยอดขายไอศกรีมจากช่องทางเพื่อรับประทานนอกบ้าน เช่น ร้านอาหาร และงานจัดเลี้ยงต่าง ๆ เริ่มเติบโตขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย. และ พ.ค. 2023 เพราะอากาศเย็นเริ่มหายไป และอบอุ่นขึ้นชัดเจนในเดือน มิ.ย. 2023 แต่ด้วยอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือน ก.ค. 2023 ทำให้พวกเขาไม่เลือกรับประทานไอศกรีม และหันไปดื่มน้ำเย็นแทน
หากเจาะไปที่ยอดขายธุรกิจไอศกรีมในครึ่งแรกปี 2023 ของ Unilever จะพบว่าภาพรวมยอดขายเติบโต 5.7% โดยมีการปรับขึ้นราคาสินค้าราว 11.5% แต่ในแง่จำนวนชิ้นสินค้าที่ขายออกไปกลับลดลง 5.2 โดยยอดขายไอศกรีมเพื่อรับประทานที่บ้านเติบโตเพียงอัตราตัวเลข 1 หลัก เนื่องจากผู้บริโภคควบคุมค่าใช้จ่ายผ่านภาวะเงินเฟ้อ
Hein Schumacher ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Unilever แจ้งว่า สงครามยูเครนรัสเซียที่ส่งผลกับต้นทุนข้าวสาลี และความร้อนในยุโรปใต้ จะส่งผลต่อภาพรวมสินค้าเกษตรในตลาดโลก และทำให้ต้นทุนอาหารนั้นสูงขึ้น ส่วนปัจจุบัน Unilever มีส่วนแบ่ง 5 อันดับแรกของตลาดไอศกรีมโลก ผ่านการถือแบรนด์ Wall’s และ Ben & Jerry’s
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา