Matt Higgins เศรษฐีและซีอีโอรายใหญ่ของสำนักข่าว CNBC แนะนำความเชื่อ 5 ข้อที่พ่อแม่มักนำมาใช้แบบผิดๆ
Higgins ผู้ที่ปั้นตัวเองจนกลายเป็นเศรษฐี ทำงานด้วยลำแข้งของตน ได้ให้คำแนะนำต่อเหล่านักศึกษาจบใหม่ในช่วงนี้ว่า เขาได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากจากปัญหาในครอบครัว และเข้าใจดีว่าในช่วงนี้ปัญหาทางเศรษฐกิจ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งด่านใหญ่ในการหางานทำ เขาเข้าใจดีว่าครอบครัวมีความหวังดี แต่ก็ใช่ว่าทุกคำแนะนำจะได้ผลเสมอ
เขาจึงชี้เป้า 5 คำแนะนำผิดๆ ที่ผู้ปกครองมักจะบอกลูกๆ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
“หัดนึกถึงแผนสำรองไว้บ้างนะ”
จากงานวิจัยในหัวข้อ ‘How Backup Plans Can Harm Goal Pursuit: The Unexpected Downside of Being Prepared for Failure’ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร
‘Organizational Behavior and Human Decision Processes’ ได้กล่าวถึงด้านตรงข้ามของการเตรียมตัวสำหรับความล้มเหลว ไว้ว่า การมีแผนสำรองเอาไว้ และเราคอยนึกถึงมันอยู่ตลอด อาจทำให้เรามีความพยายามน้อยลงและไปไม่ถึงเป้าหมายที่หวังไว้
กล่าวให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ เหมือนเรารู้ว่าเราอยู่ในเซฟโซนตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะล้มในตอนไหน ก็จะมีฟูก (แผนสำรอง) รองรับเราไว้เสมอ Higgins จึงแนะนำให้เราเชื่อความสามารถในการแก้ปัญหาของตัวเองมากกว่าการยึดแผนสำรองไว้ในใจตลอดเวลา
“อยู่กับหน้าจอให้มันน้อยลงหน่อย”
นั่นเพราะหน้าจอไม่ใช่แค่ความบันเทิงในชีวิต หากเราใช้มันไปนับ 10 ชั่วโมงโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ถ้าถกเถียงประเด็นที่ไถหน้าจอไปเรื่อยๆ พ่อแม่อาจจะเป็นฝ่ายได้แต้มไป แต่ความเป็นจริงแล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี ที่เราสามารถรังสรรค์ผลงาน ไอเดีย ต่อยอดความรู้ได้นับไม่ถ้วน การใช้หน้าจอมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์และผลลัพธ์ของการใช้งานด้วยเช่นกัน
“อย่ากังวลกับเรื่องแค่นี้เลยน่า”
ใช่ว่าทุกความกังวลจะแย่ไปเสียหมด Higgins หยิบ ‘Optimal Anxiety’ มาเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ อธิบายง่ายๆ คือ เมื่อเราก้าวออกจาก Comfort Zone เราจะเกิดความวิตกกังวลขึ้นมา แต่ความกังวลนั้นกลับอยู่ในระดับที่พอดี ที่จะสามารถผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไปได้ มันจึงเป็นความกังวลที่ช่วยสร้างโฟกัส และเราต้องรู้จักควบคุมไม่ให้มันเกินขอบเขต จนไปทำลายความมั่นใจของเราด้วย
“ทำงานในบริษัทใหญ่ๆ สิ ถึงจะมั่นคง”
ประโยคยอดฮิตที่เชื่อว่าเด็กจบใหม่คงได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน แต่อย่าลืมว่าเมื่อถึงเวลาที่มีปัญหา (และปัญหาก็มีอยู่ตลอด) บริษัทยักษ์ใหญ่ก็ Lay Off พนักงานกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
Higgins จึงแนะนำให้หันมาสนใจที่ตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถของเราแทน และผลักดันตัวเองในให้ไปได้ดีในตำแหน่งนั้น ไม่ว่าที่นั่นจะเป็นเพียง Start Up หรือบริษัทเล็กๆ ก็ตาม หากเราอาศัยความถนัดและความสนใจที่มี เราอาจจะเป็นผู้เริ่มต้นธุรกิจเองก็ยังได้
“รีบซื้อบ้าน ลงหลักปักฐานได้แล้วนะ”
สำหรับเรื่องนี้ Higgins แนะนำให้รักษาสภาพคล่องทางการเงินเอาไว้ด้วยการออม โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง การรีบมีหนี้โดยไม่จำเป็นสำหรับเหล่าคนทำงานหน้าใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี มีอัตราหนี้บัตรเครดิตที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประชากรอายุอื่น ๆ ดังนั้น ควรระมัดระวังการใช้จ่ายเกินตัว
อย่างที่ Higgins ได้กล่าวไปในข้างต้น ในคำแนะนำของพ่อแม่นั้น แฝงไปด้วยความหวังดี แต่หากเรารู้เท่าทันว่าสิ่งไหนควรนำไปปรับใช้ สิ่งไหนควรปล่อยผ่าน จะช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกกดดันกับทุกคำพูดของเขาด้วยเช่นกัน
อ้างอิง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา