เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานประกาศรางวัล Thailand Social Awards ครั้งที่ 11 ผลปรากฎว่าช่อง My Mate Nate ได้รางวัล ในกลุ่มรางวัล Best Creator Performance on Social Media สาขา Variety
ผู้คนบนโซเชียลมีเดียต่างแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่า My Mate Nate สมควรจะได้รับรางวัลหรือไม่ เพราะหลายคลิปของช่องดังกล่าวไปคล้ายคลึงกับช่องชื่อดังอย่าง MrBeast รวมทั้งปกคลิปหลายคลิปก็แทบจะเหมือนกันเลย
Brand Inside จึงชวนมารู้จักช่อง MrBeast บุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกบน YouTube ที่ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาก่อนกว่าจะถึงทุกวันนี้
ช่อง MrBeast เป็นบุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกบน YouTube ในขณะนี้ รวมทั้งเป็นหนึ่งในช่องที่มีผู้ดูคลิปวิดีโอมากที่สุดและมีรายได้สูงที่สุดบน YouTube ด้วย
เจ้าของช่องแท้จริงแล้วคือ Jimmy Donaldson วัย 24 ปี เขาเริ่มโด่งดังขึ้นมาบน YouTube คือการภารกิจต่าง ๆ อย่างการอ่านคำศัพท์ทุกคำในดิกชันนารีหรือการนับเลขจาก 0-100,000 ที่ใช้เวลา 40 ชั่วโมงรวด
MrBeast ลงคลิปวิดิโอแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 เมื่อเขาอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น โดยเริ่มจากการใช้ชื่อช่องว่า MrBeast6000 ก่อน แต่ในช่วงแรกการพยายามเอาชนะอัลกอริธึมของ YouTube เพื่อทำช่องนี้ให้โด่งดังกลับไม่ประสบความสำเร็จ
ในช่วงแรกช่อง MrBeast ก็ต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่บ้าง เขาได้พยายามทำคอนเทนต์ที่เข้ากับกระแสในช่วงนั้นไม่ว่าจะเป็นการแคสต์เกม Minecraft หรือ Call of Duty แต่เมื่อเวลาผ่านไป 4 ปี ในปี 2016 ช่อง MrBeast ก็เพิ่งจะมีผู้ติดตามครบ 30,000 คน ก่อนที่ MrBeast จะสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและเลิกเลิกเรียนหลังจากผ่านไปได้เพียง 2 สัปดาห์ MrBeast บอกกับแม่ของเขาว่าขอยอมจนดีกว่าถ้าจะต้องไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่คอนเทนต์ลง YouTube
และแล้วความสำเร็จของช่อง MrBeast ก็เปิดฉากขึ้นเมื่อในปี 2017 เขาอัปโหลดคลิปวิดีโอนับเลขจาก 0-100,000 ลงใน YouTube จนกลายเป็นไวรัลซึ่งเขาเผยหลังจากนั้นว่าตัวเองใช้เวลาไปถึง 44 ชั่วโมง หลังจากคลิปนี้ประสบความสำเร็จ MrBeast ก็เริ่มจับทางได้ว่าอัลกอริธึมชอบแบบไหนและเริ่มทำวิดีโอในทำนองเดียวกันอย่างหมุนสปินเนอร์ 24 ชั่วโมง หรือฟังเพลงเดียวเป็นเวลา 10 ชั่วโมงรวด
จนช่วงปลายปี 2017 ช่อง MrBeast ก็มีผู้ติดตามครบ 1 ล้านคนในที่สุด…
หลังจากนั้น MrBeast ก็ได้ลงคลิปวิดีโอที่ทำภารกิจหลายชั่วโมงมาเรื่อย ๆ รวมทั้งได้เพิ่มคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเงินซึ่งเขาคิดว่าน่าจะทำให้คนหันมาสนใจได้ คือการไปสายบุญ อย่างการบริจาคเงิน 10,000 ดอลลาร์ (ราว 300,000 บาท)ให้กับสตรีมเมอร์รายเล็ก ๆ บน Twitch หรือการบริจาคเงินให้พนักงานร้านอาหาร คนขับรถ ต่อมาเมื่อช่องเริ่มทำรายได้ MrBeast จึงได้จ้างเพื่อน 4 คนเข้ามาร่วมทำงานในช่องด้วย คือ Chris, Chandler, Garret และ Jake
MrBeast ยังคงทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการบริจาคเงินมาเรื่อย ๆ จนมาถึงปี 2020 ซึ่งถือว่าเป็นปีทองของเขาก็ว่าได้ เพราะ MrBeast กลายป็นช่องที่มีคนดูมากที่สุดบน YouTube รายได้เฉลี่ยจากแต่ละคลิปที่เคยอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ ก็เพิ่มมาอยู่ที่ 300,000 ดอลลาร์
ในปี 2021 ช่อง MrBeast ก็มีคนติดตามทะลุถึง 53 ล้านคน ก่อนที่ปี 2022 Forbes จะจัดลำดับให้เป็นช่องที่ทำรายได้มากที่สุด อยู่ที่ 54 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 โดยรายได้มาจาก YouTube ที่มีโฆษณาจากแบรนด์ดังอย่าง Microsoft รวมถึงมีร้านแฮมเบอร์เกอร์ MrBeast Burger ที่มีมากกว่า 1,600 สาขาและเป็นที่นิยมให้หมู่ผู้ติดตามช่อง MrBeast รายได้ในปี 2021 ของ MrBeast ถือว่ามากกว่าผู้มีชื่อเสียงอย่าง Billie Eilish และ Kim Kardashian เสียอีก
ในช่วงกลางปี 2022 MrBeast เป็นช่องที่ 2 บน YouTube ที่มีผู้ติดตามถึง 100 ล้านคน ตามหลังช่อง PewDiePie ก่อนที่จะมียอดผู้ติดตามมากกว่า PewDiePie ในช่วงปลายปี จนในขณะนี้ MrBeast มีผู้ติดตามอยู่ราว 135 คน
คลิปวิดีโอล่าสุดอย่าง “1,000 Blind People See For The First Time” ก็กลายเป็นไวรัลเมื่อ MrBeast สนับสนุนเงินให้คนตาบอดคนละ 10,000 ดอลลาร์ จำนวน 1,000 คนเพื่อเข้ารับการผ่าตัดให้สามารถมองเห็นได้ จนทำให้คลิปนี้มียอดผู้ชมกว่า 114 ล้านวิว
กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นช่องที่มีผู้ติดตามมหาศาลอย่างในทุกวันนี้ MrBeast ก็ต้องลองผิดลองถูกเพื่อคิดคอนเทนต์ที่น่าสนใจอยู่นาน จึงไม่แปลกที่ผลการตัดสินรางวัล Thailand Social Awards นี้จะค้านสายตาผู้คนบนโซเชียลเพราะการคัดลอกผลงานถือเป็นสิ่งต้องห้ามที่นักสร้างคอนเทนต์ที่ดีควรจะต้องให้ความสำคัญ
ที่มา – Business Insider, Thailand Social Awards
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา