ธนาคารกสิกรไทยจัดงาน Economic Outlook Thailand Forecast เปิดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อต่ำลง เงินบาทอ่อนค่าลง GDP เติบโตสูงขึ้น
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุนธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจทั่วโลกในภาพรวมว่ากำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ สินค้าขาดแคลนสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสงครามยูเครน-รัสเซียอีก อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ก็อยู่ในขาลงมาจากความกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์
นายกอบสิทธิ์มองว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวดีโดยเฉพาะในภาคบริการที่มีการกระจุกตัวของธุรกิจมากขึ้น การเติบโตของ GDP ไทยในปีนี้ก็คาดการณ์ว่าจะปรับมาอยู่ที่ 3.7% เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่อยู่ที่ 3.2% ขณะที่ GDP โลกคาดว่าจะเติบโตลดลงจากเดิมอยู่ที่ 3.1% จะลงมาอยู่ที่ 2.1%
ภาคการส่งออกเป็นส่วนที่ไทยต้องให้ความสำคัญเพราะการส่งออกไทยในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2021 เช่นเดียวกับการค้าทั่วโลก ปัญหาของประเทศไทยอยู่ที่การเซ็นสัญญาเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศที่มีกำลังซื้อไม่เพียงพอ การทำสัญญากับประเทศที่มีกำลังซื้อมากจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติต้องการเข้ามาทำธุรกิจในไทยมากขึ้น
ส่วนค่าเงินบาท นายกอบสิทธิ์ระบุว่าในช่วงต้นปีจะหมดยุคของค่าเงินบาทแข็งตัว และจะอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ราว 34.50 ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
นายภาสกร ลินมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์และหลักทรัพย์สถาบัน คาดการณ์การลงทุนว่าในภาพรวมปีนี้ สถานการณ์ยังอยู่ในเชิงบวก แต่ก็ยังต้องจับตาเฝ้าระวังเรื่องความผันผวนของเศรษฐกิจและปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่เสมอ
ประเด็นที่สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด คือ ภาวะเงินเฟ้อที่มีวัฏจักรซับซ้อนเมื่อเทียบกับปีอื่น สืบเนื่องมาจากที่ในช่วงโควิดมีการอัดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมหาศาลผ่านการดำเนินนโยบายการคลัง เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตลดลง ขณะที่เอเชียฟื้นฟูจากภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจเติบโตได้ดี ส่วนไทยคาดว่าในปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะลงมาอยู่ที่ 2.7% ในปีนี้
ส่วนการลงทุนคริปโตค่อนข้างผันผวน การลงทุนอย่างจริงจังเพื่อหวังผลกำไรยังยากเพราะการกำกับดูแลของทางการยังไม่ชัดเจน การลงทุนในหุ้นดีต่อผู้ที่มีทุนทรัพย์มาก ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 1 และเริ่มไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สามารถเพิ่มความเสี่ยงในพอร์ตหุ้นได้
นายนรวิชญ์ เวทไว ผู้บริหารงานขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เผยว่าความคาดหวังของตลาดทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น ถ้าเงินเฟ้อไม่ลงตามที่คาดการณ์ อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัว แต่ต้องดูภาคการจ้างงานของสหรัฐด้วย รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจส่งสัญญาณเพิ่มดอกเบี้ยในอนาคต
ในส่วนเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเผชิญกับสภาวะถดถอยลง เช่นเดียวกับยุโรปที่เศรษฐกิจยังเปราะบางจากภาวะสงคราม ส่วนสหราชอาณาจักรก็มีผลจากการขาดแคลนแรงงานจาก Brexit ด้วย ขณะที่จีนและเอเชียจะฟื้นฟูได้ดีกว่าจากการที่จีนเปิดประเทศ
ที่มา – กสิกรไทย
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา