ท่องเที่ยวไทยป่วน หลังเปลี่ยนกฎเข้าประเทศจนคนทำงานสับสน ชาวต่างชาติถึงกับตั้งคำถาม ปีที่ผ่านๆ มา ไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นเลยเหรอ??
หลังจากที่โลกวุ่นวายกับการปิดเมืองเพื่อควบคุมโควิดระบาด ไทยเองก็ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศและเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวได้พักใหญ่แล้ว แต่ล่าสุดก็ยังมีประกาศหลักเกณฑ์ในการเข้าประเทศ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนผู้คนสับสน รายละเอียด ดังนี้
5 มกราคม 2566
ทำเนียบรัฐบาล
ข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า มาตรการด้านสาธารณสุขคือ ก่อนเข้าไทย จะต้องมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม หากมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ แนะนำให้เลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเดินทางเข้าไทย แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ก่อนเข้าไทย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นขณะพำนักที่ไทย
6 มกราคม 2566
CAAT
จากนั้น ข้อมูลจาก CAAT (สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย) ระบุเมื่อ 6 มกราคม เผยเกณฑ์ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 คือ ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง, ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มจากต่างบริษัทผู้ผลิตและมีระยะห่างตามที่กำหนด, ได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม กรณีที่เป็นวัคซีนที่ต้องได้รับ 1 เข็มขึ้นไป
ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการรับวัคซีนหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทาง
ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดจะต้องได้รับวัคซีนหลังจากการติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทางและแสดงใบรับรองแพทย์หรือผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อโควิด
กรณียกเว้น การแสดงเอกสารรับรองการรับวัคซีน คือ
ผู้เดินทาง มีอายุน้อยกว่า 18 ปีบริบูรณ์
ผู้เดินทาง เป็นผู้ที่เคยติดโควิด ได้รับการรักษาหายแล้วอย่างน้อย 7 วันแต่ไม่เกิน 6 เดือน ก่อนเดินทาง หากยังไม่เคยรับวัคซีน ให้แสดงใบรับรองแพทย์หรือผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อโควิด
7 มกราคม 2566 (ปรับจากวันที่ 6 ม.ค.)
1) ข้อกำหนดในการเข้าไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ผู้โดยสารอายุมากกว่า 18 ปี ต้องแสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือจดหมายจากแพทย์ที่รับรองว่าหายจากโรคโควิดแล้วไม่เกิน 6 เดือน ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนต้องมีจดหมายจากแพทย์พร้อมแสดงเหตุผล
2) ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่มีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ติดโควิดเดินทางกลับเข้าประเทศต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิดตลอดระยะเวลาเดินทางในไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วันสำหรับผู้มาประกอบภารกิจรวมถึงลูกเรืออาจใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพรับรองแทน
3) ผู้โดยสารที่ถือพาสปอร์ตไทยได้รับการยกเว้นในการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคซีนและเอกสารประกันสุขภาพ
4) ผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่องได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคซีนและเอกสารประกันสุขภาพของผู้โดยสารตามมาตรการที่กำหนดของประเทศปลายทาง
5) สายการบินต้องตรวจสอบเอกสารตามที่กล่าวมา ถ้าผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารเหล่านี้ได้ สายการบินจะต้องปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารเดินทาง
6) สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือตามความเหมาะสม
7) ผู้โดยสารที่มีอาการของโควิด ระหว่างการเดินทางจะได้รับการแนะนำให้ทำการตรวจการติดเชื้อเมื่อดินทางมาถึงจุดหมาย
7 มกราคม 2566 (ปรับเพิ่มเวลา 21:54)
2) ปรับวงเงินประกันสุขภาพไม่น้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ประกอบภารกิจ รวมถึงลูกเรือ นักเรียน อาจใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพหรือเอกสารแสดงถึงการมีประกันรูปแบบอื่นรับรองแทน
3) ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางราชการ หนังสือเดินทางทูต และหนังสือเดินทางสหประชาชาติได้รับการยกเว้นข้อกำหนดประกันสุขภาพ
4) ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางไทยและผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่องได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคีนและข้อกำหนดประกันสุขภาพ
5) สายการบินต้องตรวจสอบเอกสารตามที่กำหนด หากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารตามกำหนดนี้ได้ ผู้โดยสารดังกล่าวอาจจะถูกทำการตรวจการติเชื้อ ณ จุดขาเข้า
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงผลกระทบจากการออกมาตรการของผู้เดินทางเข้าประเทศ 9 มกราคม 2566 ดังนี้
บริษัทนำเที่ยว ประเทศอังกฤษ
- ประกาศฉุกเฉินเกินไป
- มีความกังวลลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถเดินทางได้และบริษัทนำเที่ยวต้องทำการคืนเงิน
- ไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทย บริษัทนำเที่ยวต้องพยายามหาข้อมูลจากเว็บไซต์รัฐบาล
บริษัทนำเที่ยวจากภาคพื้นสแกนดิเนเวีย
- บริษัทนำเที่ยวไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทันเรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีน เนื่องจากเป็นวันหยุด มีผลบังคับใช้วันจันทร์
- มีลูกค้าในประเทศแถบสแกนดิเนเวียที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนที่ซื้อแพคเกจทัวร์ บริษัทนำเที่ยวต้องหาทางออกให้ลูกค้าโดยยกเลิกหรือคืนเงิน ทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ
บริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี
- เป็นการออกกฎที่ไม่ควรออก เป็นการสร้างปัญหา ลดความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย
- ทันทีที่มีข่าวเปลี่ยนมาตรการเดินทาง บริษัทได้รับการยกเลิกจากลูกค้ากว่าหนึ่งพัน room nights
- 20% ของประชากรไม่ได้ฉีดวัคซีน กฎนี้ทำให้คนกลุ่มนี้เดินทางมาไทยไม่ได้
- มาตรการใหม่ของรัฐไทยไม่เข้าข่ายที่นักท่องเที่ยวจะขอคืนเงินจากสายการบินได้หากโดนปฏิเสธการเดินทาง สร้างปัญหาให้กับบริษัทนำเที่ยวและลูกค้า
บริษัทนำเที่ยวจากประเทศฝรั่งเศส
- บริษัทนำเที่ยวมีความไม่พอใจในการเปลี่ยนกฎเนื่องจากกฎไม่เข้าข่ายการคืนเงินของสายการบิน มีการยกเลิกเนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลไทย
บริษัทนำเที่ยวจากรัสเซียและ CIS
- มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือไม่ได้รับวัคซีนจำนวนหนึ่ง มาตรการที่ประกาศจึงเป็นการสร้างปัญหาต่อการเดินทาง บริษัทที่ขายแพคเกจล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ทำสัญญาเช่าเหมาลำเครื่องบินหรือซื้อที่นั่งล่วงหน้า ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อธุรกิจมาก
สรุปปัญหาหลังประกาศกฎ
- ประกาศกฎฉุกเฉินเกินไป ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวไม่ทันได้เตรียมตัว
- มีการอัพเดตกฎ เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา
- มีการกำหนดวงเงินประกันสุขภาพ
- มีเกณฑ์เรื่องฉีดวัคซีนที่ทำให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า แต่จองตั๋ว ซื้อแพคเกจทัวร์มาแล้ว สร้างความเสียหายต่อบริษัททัวร์ นักท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างความสับสนแก่เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติภารกิจอยู่ด่านหน้าในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
–ต้อนรับอบอุ่น: รัฐมนตรีสาธารณสุข คมนาคม ท่องเที่ยว ตั้งแถวรับนักท่องเที่ยวจีนไฟลท์แรก–
ที่มา – รัฐบาลไทย, CAAT, Twitter (1), (2), สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา