ค้าปลีกเยอรมัน Aldi ลงทุน 3,400 ล้านเหรียญสวนตลาดซบ ตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 3 แดนมะกันในอีก 3 ปี

ขณะที่สถานการณ์ค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วง Retail Apocalypse แต่ค้าปลีกจากเยอรมัน Aldi กลับกล้าลงทุนกว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายหน้าร้านที่นี่ให้ครบ 2,500 แห่งในปี 2563 ขึ้นเป็นเบอร์ 3 ของอุตสาหกรรมนี้

ร้าน Aldi // ภาพจาก Flickr ของ Mike Mozart

ชูกลยุทธ์ราคาถูกจูงใจเงินจากกระเป๋าผู้ซื้อ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เมื่อปี 2557 ธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาแจ้งล้มละลายถึง 18 ราย แสดงให้เห็นถึงวิกฤตของอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างดี แต่ Aldi กลับมองเรื่องนี้เป็นโอกาส และอัดฉีดเงินเพื่อขยายหน้าร้านกว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 แสนล้านบาท รวมถึงเดินหน้ากลยุทธ์เรื่องราคาถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพื่อดึงผู้บริโภคเข้ามาจับจ่าย

Jason Hart ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Aldi เล่าให้ฟังว่า การทำธุรกิจหลังจากนี้จะชูเรื่องราคาที่ต้องถูกกว่าคู่แข่งอย่างน้อย 21% เมื่อเทียบระหว่างสินค้าเดียวกัน และหลังจากนี้จะให้ความสำคัญกับการขายสินค้า House Brand เพื่อเพิ่มโอกาสการขายให้มากขึ้น ด้วยราคาถูกที่จูงใจผู้บริโภคในยุคนี้

“ขณะที่อุตสาหกรรมนี้กำลังมีปัญหา เรากำลังจะเดินหน้าทำให้ราคาสินค้าต่ำกว่าคู่แข่งร้านอื่นถึง 50% ที่สำคัญการขยายสาขาของเราจะช่วยสร้างงานในสหรัฐอเมริกากว่า 25,000 ตำแหน่ง และ Aldi ก็ขึ้นเป็นค้าปลีกอันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นรองแค่ Wal-Mart กับ Kroger ซึ่งหน้าร้าน 2,500 แห่งของ Aldi จะคิดเป็น 52% ของสาขา Wal-Mart ตอนนี้”

จุดเด่นเรื่องราคาถูกของ Aldi // ภาพจาก Flickr ของ Mikey

Disrupt ตลาดค้าปลีกแดนมะกัน

ปัจจุบัน Aldi มีหน้าร้านในสหรัฐอเมริกา 1,600 แห่ง และภายในปี 2561 จะเปิดเพิ่มอีก 400 แห่ง นอกจากงบประมาณ 3,400 ล้านดอลลาร์ ค้าปลีกจากเยอรมันรายนี้ยังลงทุนอีก 1,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงหน้าร้านเดิม 1,300 สาขา ให้ทันสมัย และเดินกลยุทธ์เรื่องราคาถูกได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน Lidl ค้าปลีกจากเยอรมันอีกรายก็เตรียมเปิดสาขาในสหรัฐอเมริกา 100 แห่งภายในกลางเดือนนี้ พร้อมกับชูจุดเด่นเรื่องราคาสินค้าที่ถูกกว่า 50% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ถือเป็นการ Disrupt อุตสาหกรรมค้าปลีกที่นี่เป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีใครเดินหน้ากลยุทธ์เรื่องราคาเต็มตัว และถึง Wal-Mart จะพยายามก็ทำได้แค่ทดลองบางสาขาเท่านั้น

สรุป

อาจต้องดูกันยาวๆ ว่า Aldi จะเติบโตในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่ แต่การชูกลยุทธ์เรื่องราคาตลอดอาจไม่ยั่งยืน เพราะเมื่อคู่แข่งทำได้ถูกกว่า ผู้บริโภคก็จะหันไปซื้อสินค้าที่อื่นทันที แต่ด้วยสภาพค้าปลีกแดนมะกันตอนนี้ ใครจะมาใช้เงินเพื่อสนับสนุนเรื่องการลดราคา หรือกดดันให้แบรนด์ต่างๆ จำหน่ายสินค้าราคาถูกได้ จึงเชื่อว่า Aldi น่าจะเติบโตได้ระยะหนึ่ง แต่ระยะยาวคงยาก

อ้างอิง // Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา