CNN สำนักข่าวชั้นนำของโลกประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ กระทบแทบทุกฝ่ายขององค์กร เหตุเรตติ้งแพ้คู่แข่ง ผู้บริหารต้องการคุมต้นทุนรับมือเศรษฐกิจซบเซา หวังสร้าง Long-Form Content และรายการคุณภาพสู้ศึก
CNN ปลดพนักงานครั้งใหญ่
Chris Licht ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CNN ส่งจดหมายแจ้งกับพนักงานอย่างเป็นทางการว่า พนักงานส่วนหนึ่งในองค์กรจะถูกแจ้งปลดตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2022 (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง โดยปัจจุบัน CNN มีพนักงานราว 4,000 คน และยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องจำนวนพนักงานที่ถูกปลด
ทั้งนี้กลุ่มผู้ประกาศชั้นนำของช่อง รวมถึงช่างภาพข่าว และทีมตัดต่อวิดีโอจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปลดพนักงานครั้งนี้ และทาง Chris Licht พยายามจะเก็บฝ่ายงานเกี่ยวกับการทำข่าวไว้ให้มากที่สุด เนื่องจากเป็นจุดแข็ง และจุดเริ่มต้นขององค์กร
สำนักข่าว New York Times อ้างอิงแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลว่า Warner Bros. Discovery บริษัทแม่ของ CNN รวมถึงทีมผู้บริหารของช่องมีความต้องการลดต้นทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,500 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังซบเซา
พ่ายแพ้เรื่องเรตติ้งให้กับคู่แข่ง
ขณะเดียวกันการปลดพนักงานครั้งนี้ยังมาจากการพ่ายแพ้เรื่องเรตติ้งผู้ชมให้กับคู่แข่งทั้ง Fox News และ MSNBC แม้ CNN จะมีฐานผู้ชมในช่วงอายุ 25-54 ปีมากกว่าทาง MSNBC แต่ด้วยภาพรวมเรตติ้งที่น้อยกว่า ทำให้ภาพรวมกำไรในปี 2022 ออกมาไม่ดีนัก
ปี 2022 CNN มีการปลดพนักงานไปหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่การปิดตัวของ CNN+ บริการ Subscription ที่ปิดตัวไปเมื่อเดือน เม.ย. 2022 และในเดือน ต.ค. 2022 มีการปลดพนักงาน The Vault ธุรกิจ NFT ของ CNN และฝ่ายเสียงของช่อง
แก้เกมด้วยเนื้อหาคุณภาพ และ Long-Form Content
ในทางกลับกัน CNN จะให้ความสำคัญกับการลงทุนในรายการช่วงไพรม์ไทม์ และข่าวเช้า รวมถึงมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มในฝ่ายงานเกี่ยวกับธุรกิจดิจิทัล นอกจากนี้ยังเตรียมแข่งขันด้วยเนื้อหาคุณภาพ และการสร้าง Long-Form Content หลังยกเลิกแผนซื้อซีรีส์, สารคดี และภาพยนตร์ไปเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2022
สรุป
ธุรกิจสื่อในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และก่อนหน้านี้มีสื่อยักษ์ใหญ่มากมายปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน แม้ว่า CNN จะอยู่ภายใต้บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Bros. Discovery ที่มีมูลค่ากิจการ 27,000 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ไม่สามารถแบกรับปัญหานี้ได้
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา