กลุ่ม SEA ไตรมาส 2 รายได้โต 29% เผย E-Commerce ขาดทุน/ออร์เดอร์ ในอาเซียน และไต้หวันน้อยลง 95%

กลุ่ม SEA บริษัทแม่ Garena และ Shopee รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2022 มีรายได้รวม 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน ธุรกิจ E-Commerce ขาดทุนในอาเซียน และไต้หวันน้อยลง 95% ส่วนธุรกิจเกมรายได้ลดลง เพราะผู้เล่นไม่เยอะเหมือนตอนโควิด-19 ระบาด

Shopee

SEA โตต่อเนื่อง E-Commerce แบกธุรกิจ

ไตรมาส 2 ปี 2022 SEA มีรายได้รวม 2,900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 29% มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.1% แต่ยังขาดทุนสุทธิ 931.2 ล้านดอลลาร์ แย่กว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 433.7 ล้านดอลลาร์

SEA แบ่งธุรกิจเป็น 3 ประเภทคือ E-Commerce (EC) ทำตลาดในนาม Shopee, Digital Entertainment (DE) ทำตลาดในนาม Garena และ Digital Financial Services (DFS) ทำตลาดในนาม Shopee Pay หรือชื่อเดิม Airpay โดยในไตรมาส 2 ปี 2021 รายได้ระหว่าง EC กับ DE จะใกล้เคียงกัน

แต่ไม่ใช่กับไตรมาส 2 ปี 2022 ที่รายได้ EC พุ่งขึ้นมากินสัดส่วนเกือบ 60% ของรายได้รวม หรือ 1,749.4 ล้านดอลลาร์ ทิ้งห่างธุรกิจ DE ที่ทำรายได้ 900.3 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจ เพราะจุดเริ่มต้นของ SEA มาจากธุรกิจ DE ที่พัฒนา และให้บริการเกมต่าง ๆ มาก่อน

SEA

E-Commerce ขาดทุน/ออร์เดอร์ น้อยลง

หากเจาะไปที่แต่ละธุรกิจ เริ่มต้นที่ E-Commerce ทาง SEA รายงานว่า ธุรกิจนี้ทำรายได้รวมกว่า 1,700 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 51.4% แบ่งเป็นรายได้จาก Marketplace (ค่าธรรมเนียมการขาย และค่าโฆษณา) ราว 1,500 ล้านดอลลาร์ และรายได้ที่เหลือมาจาก Product (การขายสินค้า และบริการของตัวเองโดยตรง)

การเพิ่มขึ้นขนาดนี้มาจากคำสั่งซื้อกว่า 2,000 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 41.6% จากปีก่อน โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์ ที่สำคัญกำไรจากการดำเนินงานในธุรกิจนี้ยังค่อย ๆ ดีขึ้น เนื่องจากมียอดสั่งซื้อมากขึ้น และมีรายได้จากส่วนอื่นมาช่วย

นอกจากนี้ในอาเซียน และไต้หวัน บริษัทยังขาดทุนต่อออร์เดอร์ก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA และก่อนนำไปคิดค่าใช้จ่ายทั่วไปของสำนักงานใหญ่ หรือ HQ Costs น้อยกว่า 1 เซนต์ หรือราว 36 สตางค์ ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 95%

SEA

Digital Entertainment ยังตก ส่วนการเงินคืออนาคต

ในทางกลับกัน Digital Entertainment อดีตธุรกิจหลักของบริษัทยังทำรายได้ลดลงต่อเนื่อง ไตรมาส 2 ปี 2022 ปิดที่ 900.3 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากจำนวน Active Users ลดลงจาก 725.5 ล้านบัญชีในไตรมาส 2 ปี 2021 เหลือ 619.3 ล้านบัญชีในไตรมาสนี้

ส่วนผู้เล่นที่จ่ายเงินเข้าระบบ หรือ Paying Users อยู่ที่ 56.1 ล้านบัญชี คิดเป็นอัตราส่วนลดลงจาก 12.7% ในปีก่อน มาเหลือ 9.1% ในปีนี้ มีการเติมเกมโดยเฉลี่ยในแต่ละบัญชีจะอยู่ที่ 1.2 ดอลลาร์ ลดลงจาก 1.6 ดอลลาร์ในปีก่อนเช่นกัน เหตุผลที่ลดลงมาจากคนไม่เล่นเกมเยอะเหมือนช่วงโรคโควิด-19 ระบาด แม้ Free Fire ยังเป็นเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอาเซียน และอเมริกาใต้ก็ตาม

ส่วนรายได้จากธุรกิจ Digital Financial Services อยู่ท่ 279 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 214.4% แต่ยังขาดทุน EBITDA อยู่ที่ 111.5 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานบริการทางการเงินรวมทั้งหมด 52.7 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 53.3% จากปีก่อน โดยผู้ซื้อเกือบ 40% ในอาเซียนมีการใช้บริการของ SeaMoney แล้ว ส่วนมูลค่าการใช้จ่ายผ่านระบบทั้งหมดอยู่ที่ 5,700 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35.7%

SEA

สรุป

กลายเป็นว่ารายได้หลักของกลุ่ม SEA เปลี่ยนจากธุรกิจผู้ให้บริการเกมในชื่อ Garena สู่ผู้ให้บริการซื้อขายออนไลน์ Shopee เต็มรูปแบบ และแนวโน้มนี้น่าจะอยู่อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากความคึกคักของการเล่นเกมอาจไม่ได้กลับมาเยอะเหมือนช่วงโรคโควิด-19 ระบาดแล้ว และ Garena เองอาจต้องพัฒนาเกมใหม่ ๆ เพื่อรองรับกระแส Free Fire ที่อนาคตอาจไม่ได้รับความนิยมมากเหมือนเดิม

อ้างอิง // SEA

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา