ญี่ปุ่นติดโควิดอันดับ 1 ของโลก: โตโยต้า ไดฮัทสุหยุดผลิตชั่วคราว รถไฟ เรือ รถบัสลดให้บริการ

ญี่ปุ่นติดโควิดอันดับ 1 ของโลก บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota, Dihatsu เริ่มหยุดการผลิตเพื่อควบคุมโควิด

Japan
Photo by Jezael Melgoza on Unsplash

ภายในรอบ 28 วันที่ผ่านมา ญี่ปุ่นติดโควิดมากถึง 4.26 ล้านคน ภายในรอบสัปดาห์ยอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากวันละประมาณ 6 แสนคนเพิ่มเป็น 1.4 ล้านคน ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิดมากที่สุดในโลก ตามด้วยสหรัฐอเมริกา เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ บราซิล ออสเตรเลีย ตุรกี และไต้หวัน

ผลจากการติดโควิดจำนวนมหาศาลดังกล่าวทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า, ไดฮัทสุต้องระงับการผลิตในสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากพนักงานติดโควิด ไม่ใช่เพียงบริษัทผลิตรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบ ฟาสต์ฟู้ดเจ้าใหญ่อย่าง KFC ในญี่ปุ่นก็ปิดหน้าร้าน รวมทั้งที่ทำการไปรษณีย์ญี่ปุ่นก็หยุดทำการชั่วคราวกว่า 200 สาขา

โควิดสายพันธุ์ไหนที่กำลังระบาดหนักในญี่ปุ่น

สำหรับโควิดสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอย่างหนักในญี่ปุ่นคือโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังมาแรงและเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดง่ายและรวดเร็ว แถมยังหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเก่ง แม้คนที่ติดโควิดไปแล้วหรือฉีดวัคซีนกันโควิดก็ยังสามารถติดซ้ำได้ ไม่ใช่แค่นี้สายพันธุ์นี้ยังแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ดีในเซลล์ปอดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบได้ด้วย

หลังจากที่สายพันธุ์นี้แพร่ระบาดเร็วและกำลังระบาดอย่างหนักในญี่ปุ่น ทำให้หลายบริษัทพยายามรับมือควบคุมโควิด นอกจากโตโยต้า ไดฮัทสุ เคเอฟซีแล้ว ยังมีบริษัทซูบารุที่พยายามออกมาตรการเพื่อควบคุมโควิดด้วย CFO ของซูบารุระบุว่า ที่บริษัทต้องแบ่งเวลาสำหรับทานอาหารให้เป็นหลายช่วง เพื่อให้พนักงานสามารถนั่งทานข้าวทิศทางเดียว (คือไม่นั่งหันหน้าเข้าหากัน) และห้ามพูดคุยกันเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด

เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิดที่มีอาการหนักและต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในจำนวนที่สูงเป็นประวัติการณ์คือเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีผู้เข้ารักษาตัวมากถึง 2.5 แสนคน แม้จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแต่ก็ถือว่าลดลงกว่าการระบาดในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากและมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นบ้างแล้ว ซึ่งการระบาดครั้งล่าสุดนี้เป็นตัวสะท้อนตามเป้าหมายของญี่ปุ่นที่ต้องการอยู่กับโควิดให้ได้และขณะเดียวกันก็พยายามควบคุมผลกระทบที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจด้วย

ด้านโฆษกจากโตโยต้าระบุว่า การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์หรือวิกฤตขาดแคลนชิปที่ส่งผลต่อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกนี้หลังโควิดระบาด ทำให้โฆษกถึงกับกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้เลย ขณะที่ Toshihiro Nagahama ประธานทีมเศรษฐกิจจาก Dai-ichi Life Group ระบุว่า การผลิตและค้าปลีกก็ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นนี้ เพราะมันส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตของประชาชน ในการออกมาทานอาหาร ชอปปิงหรือทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ

การระบาดของโควิดส่งผลกระทบต่อการจ้างงานด้วย

โควิดดิสรัปตลาดงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางมีการจ้างงานหดตัวมากที่สุดในรอบทศวรรษ ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ยังชดเชยช่องว่างจุดนี้ได้อยู่ กล่าวคือ บริษัทขนาดใหญ่สามารถจ้างคนงานชั่วคราวเพื่อแทนที่คนที่หยุดงานได้ แต่ถ้าบริษัทขนาดเล็กนั้นถือเป็นห่วงโซ่อุปทานของบริษัทใหญ่ การปิดกิจการหรือการหยุดทำการผลิตชั่วคราวก็ส่งผลต่อการผลิตของบริษัทใหญ่ได้เช่นกัน

ไม่ใช่แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ บริษัทขนาดเล็กที่ต้องหยุดทำการ การคมนาคมก็ได้รับผลกระทบด้วย

บริษัทรถไฟ Kyshu Railway หรือ JR Kyushu ก็ระงับการให้บริการรถไฟ 120 เที่ยวในภาคใต้ของญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากพนักงานติดโควิด 53 คน บริษัท Mitsui O.S.K ก็ยกเลิกจุดข้ามฟาก 4 แห่งทางตะวันตกของญี่ปุ่น ขณะที่บริษัทรถบัสอย่าง OdakyuBus ก็ยกเลิกเที่ยวรถนับสิบสายทั่วโตเกียว

รัฐบาลกลางเองก็พยายามจะควบคุมโควิดระบาดเพื่อพยายามลดความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงวัยที่อาจติดโควิดได้ สถาบันวิจัยโนมูระ ระบุว่า เสียงสนับสนุนในตัวนายกรัฐมนตรี Kishida เริ่มลดลงแล้วท่ามกลางโควิดที่กำลังระบาดเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังแข็งแกร่งพอที่จะทำให้รัฐบาลไปต่อได้ เนื่องจากคิชิดะยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่าจะใช้มาตรการควบคุมโควิดอย่างเข้มข้นจนภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ที่มา – JHU, Japan Today, Japan Times, Sikarin 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา