ญี่ปุ่นเปิดประเทศแล้ว คนก็ยังไปเที่ยวน้อยอยู่ดี

แม้จะเปิดประเทศบางส่วนแล้ว แต่ญี่ปุ่นก็ยังมีคนไปเยือนไม่มาก

Japan-Tourism

ขณะที่เปิดให้เยือนประเทศบางส่วน ญี่ปุ่นก็กำลังมีการติดเชื้อโควิดค่อนข้างสูง ในรอบ 28 วันมีคนติดเชื้อรวม 1.6 ล้าน (1,605,443 คน) และเสียชีวิต 657 คน รวมติดเชื้อ 10.8 ล้านคน เสียชีวิตรวม 3.17 หมื่นคนน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 291.2 ล้านโดส อัตราการติดเชื้อรายวันอยู่ที่ราวแสนคน

Japan Weekly Cases
จำนวนคนติดเชื้อโควิดรายสัปดาห์ในญี่ปุ่น (หลักแสน) : Johns Hopins l Coronavirus Resource Center
Japan Weekly Deaths
จำนวนผู้เสียชีวิตโควิดรายสัปดาห์ (หลักร้อย): Johns Hopins l Coronavirus Resource Center
Japan Weekly Doses Administered
จำนวนผู้รับวัคซีนต้านโควิดรายสัปดาห์ (หลักล้าน): Johns Hopins l Coronavirus Resource Center

จำนวนของผู้ไปเยือนญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 120,400 คน เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นอนุญาตให้นำกรุปทัวร์เข้าไปเที่ยวนำร่องก่อนหลังเจอโควิดระบาดอย่างหนัก เป็นจำนวนที่ลดลง 18% จากเดือนพฤษภาคม และลดลง 14% จากเดือนเมษายน ซึ่งเดือนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นก็เริ่มปล่อยให้คนเข้าประเทศเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 20,000 คนต่อวัน เริ่มรับกรุปทัวร์จากประเทศและทวีปที่มีคนติดเชื้อโควิดต่ำเข้าญี่ปุ่นมากขึ้น

ด้าน Koichi Wada ผู้บริหารระดับสูงของ JTA (Japan Tourism Agency องค์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ประเทศเพิ่งเริ่มจะเปิดให้มีนักท่องเที่ยวขาเข้าเท่านั้น ก็คิดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเดือนกรกฎาคมขึ้นไป ก่อนหน้านี้รัฐบาลก็เตรียมจะผ่อนคลายกฎเพิ่มแต่หลังจากคนติดเชื้อโควิดเพิ่มเป็นหลักแสนจึงต้องกลับมาระวังเช่นเดิม แต่นายกรัฐมนตรี Kishida ก็ยังไม่คิดจะเพิ่มมาตรการข้ามพรมแดนที่เข้มข้นไปกว่าเดิม อาจจะต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน

JNTO ระบุว่า ชาวต่างประเทศเดินทางเข้าญี่ปุ่นช่วงครึ่งแรกของปี 2022 อยู่ที่ 507,600 คนหรือราว 3% ของจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 หรือช่วงก่อนโควิดระบาด ซึ่งปี 2019 มีคนเข้าประเทศราว 31.8 ล้านคน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงมากสมัยอดีตนายกฯ อาเบะเป็นผู้นำประเทศสมัยที่ 2 ช่วงปี 2012 ที่เขาตั้งเป้าให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศท่องเที่ยว แต่หลังจากโควิดระบาดจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ด้านท่องเที่ยวในญี่ปุ่นก็ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร

ที่มา – Nikkei

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา