ปกติถ้าจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ก็ต้องคอยมาเซ็นยืนยันตัวตนอีกครั้ง Mastercard บอกว่าเสียเวลา ล่าสุดไปจับมือพันธมิตร ส่ง M/Chip Fast ที่ใช้ระบบฝังชิปยืนยันตัวตนด้วยรหัส ต่อไปจ่ายเงินผ่านบัตร ก็รอกดรหัสอย่างเดียว ไม่ต้องเซ็นแล้ว
ปลอดภัยขึ้น และลดการเสียเวลาได้มาก
Mastercard ประกาศความร่วมมือกับ Verifone และ Global Payments ส่งเทคโนโลยีใหม่ “M/Chip Fast” เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมผ่านระบบ Chip and PIN หรือ “บัตรฝังชิปที่ยืนยันตัวตนด้วยรหัส” พูดง่ายๆ คือ เราจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตปกติ แต่พนักงานจะไม่พิมพ์สลิปมาให้เรา แต่จะให้ยืนยันผ่านการกดรหัสปนแป้นพิมพ์
ปกติแล้วในยุโรปจะมีการใช้ระบบ Chip and PIN อยู่แล้ว แต่ในตลาดอย่างสหรัฐอเมริการวมถึงค้าปลีกรายย่อยๆ ยังคงปรับตัวช้าและยังไม่นำระบบนี้เข้าไปใช้งาน ปัจจุบันถ้าสังเกตจะเห็นว่าค้าปลีกส่วนใหญ่ยังใช้เครื่องอ่านบัตรของเมื่อสองปีที่แล้วอยู่เลย หมายความว่า การทำธุรกรรมยังคงต้องใช้เวลานาน เพราะจ่ายบัตรผ่านเครื่องเสร็จ ยังต้องรอลงลายมือชื่อเพื่อยืนยันตัวตนกันอีกต่อหนึ่ง
Mastercard บอกว่า บริษัทที่อยากทำธุรกรรมอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลา จึงควรหันมาใช้เทคโนโลยีตัวใหม่คือ M/Chip Fast ในระบบ Chip and PIN ที่จะย่นระยะเวลาการทำธุรกรรมลงได้มาก และมากกว่านั้น ยังยืนยันว่าจะช่วยทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะการใส่รหัสจะส่งข้อมูลไปยังต้นสังกัด ทำให้รู้ได้ว่ามีการทำธุรกรรมผ่านการยืนยันตัวตนจริงๆ ไม่ต้องรอการเซ็นชื่ออย่างที่เคยๆ ทำกันมา
ความร่วมมือของ Mastercard กับบริษัทพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ต้องการขยายเทคโนโลยีตัวใหม่ไปยังผู้ค้าปลีกที่ต้องการความรวดเร็วในการทำธุรกรรม แน่นอนว่า ในขั้นต่อไป Mastercard จะมุ่งไปที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือร้านขายของชำในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อของในเวลาอันสั้น ต้องการความไวในการทำธุรกรรม
สรุป
Mastercard ปรับตัวอีกครั้งกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคที่รอไม่ได้ ด้วยการส่ง M/Chip Fast เข้ามาทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ “การยืนยันตัวตนผ่านรหัส” ไม่ต้องเซ็นในสลิปอย่างที่เคยทำกันมา น่าจะทำให้ตอบโจทย์โลกแบบ Cashless Society ในอนาคตอีกด้วย
ที่มา – THE VERGE, Mastercard
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา