เมื่อวานนี้แม้ตลาดทุนทั่วโลกจะปรับลดลงหลังการประกาศสงครามของรัสเซีย แต่หลังจากการประกาศแซงชั่นของชาติตะวันตก นำโดยสหรัฐ ตลาดหุ้นหลายแห่งก็กลับมาปรับตัวเป็นบวก โดยเฉพาะบริษัทด้านอาวุธสงคราม ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าตลาดทั้งหมด
บริษัทค้าอาวุธสงครามทั้งสหรัฐและยุโรปต่างปิดตลาดในแดนบวก อาทิ
- AeroVironment บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโดรนทางการทหาร ราคาหุ้นเพิ่ม 9.63%
- Northrop Grumman Corp. บริษัทผู้ผลิตอากาศยานทางการทหาร ต่อเรือรบ และเทคโนโลยีทางการทหาร เพิ่มขึ้น 2.44%
- Lockheed Martin Corp. บริษัทด้านอากาศยาน อวกาศ และการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนามผู้ผลิตเครื่องบินรบ F-35 เพิ่มขึ้น 1.75%
- Raytheon Co. บริษัทผู้ผลิตมิสไซล์และเรเดาร์ เพิ่มขึ้น 2.75%
- Rheinmetall บริษัทผู้ผลิตรถถังและยานยนต์ทางการทหาร เพิ่มขึ้น 3.38%
- BAE System บริษัทผลิตยานยานต์ อากาศยาน เรือและอาวุธทางการทหาร เพิ่มขึ้น 4.69%
ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเดียว แต่บริษัทข้างต้นทั้งหมด ล้วนปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าดัชนีตลาดที่ตัวเองเทรดอยู่ทั้งหมด โดย AeroVironment อยู่ใน NASDAQ ที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.19%
ส่วน Northorp Grumman, Lockheed และ Raytheon อยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค NYSE ที่ติดลบ – 0.55% ขณะที่ Rheinmetall อยู่ในตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ตที่ลบ – 0.20% และ BAE System อยู่ใน London Stock Exchange ที่ลบ -2.75%
อย่างไรก็ตามแม้หลายตลาดจะปิดตลาดโดยปรับตัวลดลงในช่วงแรกหลังประกาศสงคราม แต่หลังจากชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐ ประกาศแซงชั่นรัสเซีย S&P 500, NASDAQ และ DOW JONES ก็กลับมาติดในแดนบวกที่ 1.5%, 3.3% และ 0.3% ตามลำดับ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา