หลังจากที่สถานีกลางบางซื่อได้ประกาศให้เป็น ‘ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ’ รองรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน
สิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างบรรทัดของข่าวรายวัน มีตั้งแต่ประเด็นทางสังคมไปจนถึงประเด็นทางการเมือง
ภาพของประชาชนที่แออัด walk-in ไปต่อคิวรอรับวัคซีนศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไร้การเว้นระยะห่างจนเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลายคนเกรงว่าอาจจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ได้
และมากกว่านั้น ลากยาวไปจนถึงประเด็นทางการเมืองอย่างกระแสข่าวเรื่องการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนแห่งนี้ และในที่สุดอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือไปเรียบร้อยแล้ว
สถานีกลางบางซื่อ ว่าที่ศูนย์กลางระบบรางอาเซียน
แต่นอกจากประเด็นข่าวรายวันที่เกิดขึ้น รู้หรือไม่ว่า สถานีกลางบางซื่อแห่งนี้ ก่อนที่จะเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดของไทย นี่คือว่าที่ ‘ศูนย์กลางระบบรางของอาเซียน’
สถานีกลางบางซื่อเริ่มต้นโครงการตั้งแต่ปี 2552 แต่มาได้รับการอนุมัติอย่างจริงจังในปี 2553 สมัยรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเป็นหนึ่งในโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง แต่ก็มีเหตุทางการเมืองให้หยุดชะงักไป จนกระทั่งมาลงนามสัญญาก่อสร้างจริงๆ คือในยุครัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในปี 2556
นับตั้งแต่ปีที่ก่อสร้าง จนมาเสร็จสิ้นในปี 2564 รวมแล้วสถานีกลางบางซื่อใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 8 ปี
ปัจจุบันนี่คือสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ และใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวมแล้วทั้งสิ้นกว่า 34,000 ล้านบาท
ในแง่ของขนาด สถานีกลางบางซื่อมีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 274,192 ตารางเมตร มีทั้งชั้นใต้ดินที่เป็นลานจนอดรถ ชั้นลอยที่เป็นโถง มีร้านค้า และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าหลายสาย ส่วนชั้นที่สองเป็นชานชาลารถไฟทางไกล รองรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, แอร์พอร์ตลิงก์, รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ฯลฯ
ประเด็นสำคัญของสถานีกลางบางซื่อคือความต้องการเป็น ‘ศูนย์กลางคมนาคมขนส่งอาเซียน’
การรถไฟแห่งประเทศไทย เคยคาดการณ์ไว้ว่า
- หลังจากที่เปิดใช้งานในปี 2564 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการ 208,000 เที่ยวคน/วัน
- ในปี 2575 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มเป็น 396,000 เที่ยวคน/วัน
โดยได้วางตำแหน่งแห่งที่ของสถานีกลางบางซื่อเพื่อเป็นจุดการเดินทางที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคอาเซียน เชื่อมต่อไปถึงกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนกิ่งด้วยรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนที่จะเชื่อมเข้าลาวที่หนองคาย และไปต่อกับรถไฟความเร็วสูงของจีนยังกรุงปักกิ่ง
สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (ยุคของประยุทธ์ จันทร์โอชา) บอกว่า “อนาคตสถานีกลางบางซื่อ จึงไม่ต่างจากโตเกียวสเตชั่น ที่ประเทศญี่ปุ่น”
และนอกเหนือไปจากการเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมอาเซียนแล้ว รัฐบาลยังวาดภาพไว้ว่าพื้นที่รอบๆ จะกลายเป็น Smart City กลายเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสมัยใหม่อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นคือวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลวางเอาไว้ ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิดในระลอกที่ 4 มีคำสั่งล็อคดาวน์มากกว่า 10 จังหวัด และสถานีกลางบางซื่อได้ปรับไปเป็น ‘ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ’ เพื่อบริการประชาชน
[UPDATE] ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ มีประกาศใหม่ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป จะไม่มี walk-in ฉีดวัคซีนแล้ว ประชาชนจะต้องมีการลงทะเบียนมาก่อนเท่านั้น และจะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เฉลี่ย 20,000 คนต่อวัน
อ้างอิงข้อมูลสถานีกลางบางซื่อ – สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี, เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งอาเซียน (YouTube), Bang Sue Grand Station และข้อมูลศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อจาก CVC กลางบางซื่อ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา