เมนูลับและการสั่งเดลิเวอรีทำให้การทำงานของบาริสต้า Starbucks ลำบากขึ้น เพราะลูกค้ามักขอปรับแต่งเครื่องดื่มเยอะ กระทบความไหลลื่นและระบบการทำงานในร้านในภาพรวม
เมนูลับ คือดาบสองคมของ Starbucks
เมนูลับ ถือเป็นความสนุกสนานของผู้บริโภค Starbucks อย่างหนึ่ง เพราะทำให้เราได้ตามหาสูตรและได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ ที่ไม่ได้มีเสิร์ฟเป็นปกติในร้าน Starbucks แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่สนุกเท่าไหร่สำหรับบาริสต้าของ Starbucks
ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เมนูลับเท่านั้น การสั่งเครื่องดื่มเดลิเวอรี ที่เปิดให้ลูกค้าปรับแต่งเครื่องดื่มของตัวเองได้อย่างหลากหลายตามความต้องการ คืออีกหนึ่งอย่างที่ทำให้การทำงานของบาริสต้าลำบากขึ้น กระทบความไหลลื่นและระบบการทำงานในร้านในภาพรวมทั้งหมด ปัญหาที่ตามมาคือความสามารถในการให้บริการลูกค้าที่ไม่ดีเท่าเดิม
การเปิดให้ลูกค้าปรับแต่งเครื่องดื่มได้มากเกินไปเป็นปัญหาที่พนักงาน Starbucks เริ่มออกมาพูดถึงมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในช่องทางโซเชียลมีเดียหรือการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ และชัดเจนว่านี่คือปัญหาจริงๆ เพราะพนักงานจากหลากสาขาล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การสั่งสินค้าเดลิเวอรี และ เมนูลับ ทำให้การทำงานของร้านล่าช้า ไม่เป็นผลดีต่อการให้บริการลูกค้า
พนักงาน Starbucks เห็นตรงกัน ทุกอย่างมีข้อจำกัด
ผู้จัดการประจำกะของ Starbucks ในเมืองบัลติมอร์กล่าวว่า เขาลืมไม่ลงว่าออเดอร์จาก Uber Eats จำนวนมากสร้างความโกลาหลและดูดพลังแค่ไหน ที่สำคัญการสั่งเครื่องดื่มจาก Uber Eats ก็แทบจะไม่มีลิมิตเลย ยิ่งถ้ามีออเดอร์ใหญ่ๆ เข้ามางานในร้านก็แทบจะล้นมือ
Erika หัวหน้าพนักงานประจำกะในโอไฮโอ กล่าวกับ Insiders ว่า Starbucks เปลี่ยนไปสนใจเรื่องการปรับแต่งสินค้าตามความต้องการของลูกค้าผ่านการให้บริการ drive-thru และ การสั่งออนไลน์ โดยที่บริษัทไม่ได้ปรับจำนวนการจ้างพนักงานเพื่อรับมือจำนวนออเดอร์ที่จะเพิ่มขึ้นตามมาได้อย่างเหมาะสมเพียงพอ
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าจะทำเครื่องดื่มพิเศษ (ที่ต้องปรับแต่งนอกสูตรสำเร็จที่คิดไว้) ก็จำเป็นต้องใช้พนักงานเพิ่มเพื่อให้การทำงานเดินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด
Alexis Rivera อดีตผู้จัดการประจำกะใน New Jersey ระบุว่ามีครั้งหนึ่งที่สาขามีออเดอร์เข้ามาอย่างล้นมือจนพนักงานต้องปิดรับออเดอร์จากลูกค้าใหม่และรอจนทุกอย่างสงบลง
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ ที่พนักงาน Starbucks ทวีตรูปเครื่องดื่มพิเศษที่ลูกค้าขอให้ปรับแต่งเพิ่มเติมถึง 13 อย่าง ด้วยแคปชั่นว่า “นี่คือเรื่องราวในวันนี้ สำหรับเหตุผลผลว่าทำไมฉันถึงอยากลาออก” และพนักงานคนนี้ก็โดน Starbucks ไล่ออกจริงๆ หลังจากนั้น
ที่มา – Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา