จีนเปิดตัวรถไฟความเร็วสูงรุ่นใหม่ เกือบทำลายสถิติโลก ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้เหลือ 3.5 ชั่วโมง

ประเทศจีนเปิดตัวรถไฟความเร็วสูง Maglev ที่มีความเร็วถึง 600 กม./ชม. ไปเมื่อวันก่อน มีความเร็วสูงที่สุดในประเทศ และเกือบจะเร็วเท่าสถิติโลกที่ 603 กม./ชม.

อีกก้าวหนึ่งของวงการรถไฟความเร็วสูงในจีน

ด้วยความเร็วของรถไฟ Maglev ที่ 600 กม./ชม. การเดินทางระหว่างปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ รวมเวลาพักรถ จะใช้เวลาแค่ 3.5 ชม. เท่านั้น ซึ่งเร็วกว่ารถไฟหัวกระสุนทั่วไปถึง 2 ชม.

ความแตกต่างหลักระหว่างรถไฟ Maglev กับรถไฟหัวกระสุนก็คือ รถไฟ Maglev จะไม่มีล้อ เนื่องจากใช้การลอยตัวระหว่างรางรถไฟจากแม่เหล็กแทนการวิ่งบนรางรถไฟทั่วไป

เกี่ยวกับ CRRC

CRRC รัฐวิสาหกิจผู้พัฒนารถไฟ Maglev ของจีน เป็นผู้ผลิตหัวและขบวนรถไฟ รวมถึงพาหนะบรรทุกอื่นๆ (rolling stock) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปกติ CRRC ส่งออกรถไฟไปทั่วโลกอยู่แล้ว โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในโครงการ Belt and Road Initiative (เส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21) ซึ่งประเทศไทยกำลังสร้างเส้นทางรถไฟตวามเร็วสูง กรุงเทพ-หนองคายภายใต้โครงการอยู่

ทาง CRRC ได้เริ่มพัฒนารถไฟ Maglev มาตั้งแต่ปี 2016 แล้ว ซึ่งรถไฟ 1 ขบวนมาพร้อมกับมาพร้อมกับตู้รถไฟ 5 ตู้ และเริ่มทดสอบการวิ่งอย่างสำเร็จไปแล้วเมื่อปี 2020

จีน ปะทะ ญี่ปุ่น: ศึกรถไฟ Maglev

รถไฟ Maglev รุ่นใหม่ของจีนทำความเร็วสูงสุดที่ 600 กม./ชม. ซึ่งต่ำกว่าสถิติโลกที่ 603 กม./ชม. ของรถไฟที่พัฒนาโดย JR Central ของญี่ปุ่นเพียงเล็กน้อย

ซึ่ง JR Central กำลังสร้างทางเดินรถไฟความเร็วสูงสาย Chuo Shinkansen ระหว่างโตเกียว-นาโกย่าอยู่ วางแผนผลิตเสร็จภายในปี 2027 และจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 500 กม./ชม. ซึ่งจะลดเวลาเดินทางเหลือ 40 นาทีจากเร็วสุด 100 นาทีในปัจจุบัน

รูปของรถไฟ Maglev รุ่น L0 พัฒนาโดย JR Central | Photo by Saruno Hirobano, CC BY-SA 4.0, via Wikimedia Commons

ในด้านของการใช้งานจริง ประเทศญี่ปุ่นมีการให้บริการรถไฟ Maglev สาย Linimo อยู่แล้วในจังหวัดไอจิ ใกล้เมืองนาโกย่า ซึ่งมีความเร็วสูงสุดที่ 100 กม./ชม.

ในอีกด้านหนึ่ง ประเทศจีนมีสายรถไฟ Maglev ที่เปิดให้บริการถึงสามเส้นด้วยกัน แต่เส้น Shanghai Transrapid ที่เดินทางระหว่างเซี่ยงไฮ้และสนามบินนานาชาติซ่างไห่ผู่ตงมีความเร็วถึง 431 กม./ชม. ถือเป็นรถไฟฟ้ามวลชนที่เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย

สรุป

รถไฟความเร็วสูงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการเดินทางของโลกให้สะดวกมากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และผลักดันเศรษฐกิจไปอีกขั้น น่าจับตามองว่าประเทศจีนจะช่วยเศรษฐกิจของตัวเองได้มากเพียงไหนจากการเริ่มใช้รถไฟความเร็วสูงในวงกว้างมากขึ้น

ที่มา – Asia Nikkei, Railway Technology

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา