Energy Absolute (EA) ในปี 2021 ยังมีศักยภาพ ทุ่มเงินลงทุนวิจัยและพัฒนาได้อย่างมั่นคง แม้ไตรมาสแรกกำไรลด และเจอความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดโควิด-19
เมื่อพูดถึงการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของภาคธุรกิจในยุคโควิด ส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักจะมองไปถึงการลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีและการสื่อสาร เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการปิดเมือง
แต่ Energy Absolute (EA) หรือ พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถทุ่มเงินลงทุนไปกับวิจัยและพัฒนาได้อย่างมั่นคง แม้จะยังอยู่ในปัจจุบันที่ไม่แน่นอน เต็มไปด้วยความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลประกอบการในปี 2020 และไตรมาส 1 ปี 2021 ออกมาได้อย่างน่าพึงพอใจ รายได้และกำไรถูกกระทบเพียงเล็กน้อยแม้สถานการณ์โควิดกระทบหนัก ผลิตภัณฑ์หลักอย่างไฟฟ้าพลังงานลม ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และไบโอดีเซลยังทำรายได้เพิ่มขึ้น พูดง่ายๆ คือพื้นฐานของธุรกิจยังแข็งแรง
Energy Absolute เตรียมลงทุนเพิ่มในกลุ่มธุรกิจใหม่ของบริษัทแม้เจอโควิด
ปัจจุบัน Energy Absolute มีธุรกิจอยู่ 4 ด้านด้วยกัน คือ
- ธุรกิจไบโอดีเซล
- ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน
- ธุรกิจกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่)
- ธุรกิจพาหนะไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับพาหนะไฟฟ้า
2 อย่างแรก ได้แก่ ธุรกิจไบโอดีเซลที่ Energy Absolute มีโรงงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรีและโรงงาน Bio PCM ในระยอง และธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างไฟฟ้าพลังงานลมและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่บริษัทมีแหล่งผลิตไฟฟ้าอยู่ 6 แห่ง ทั่วประเทศ คือธุรกิจดั้งเดิมและธุรกิจหลักที่ทำกำไรส่วนใหญ่ให้กับบริษัทในปัจจุบัน
แต่ตอนนี้ Energy Absolute ลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจใหม่อีก 2 ส่วนที่มีความเป็นไปได้ในการเติบโตสูงในอนาคตอย่างธุรกิจแบตเตอรี่ และธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ที่เห็นได้ชัดว่ากำลังมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน
ในปี 2016 พลังงานบริษัทเข้าซื้อบริษัทแบตเตอรี่อย่าง Amita Taiwan ถือหุ้นเป็นสัดส่วน 71.2% และล่าสุดก็กำลังดำเนินการสร้างโรงงานและศูนย์วิจัยแบตเตอรี่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ภายใต้ชื่อของบริษัทลูกอย่าง Amita (Thailand)
ที่ Energy Absolute ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานเป็นเพราะเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางให้กับธุรกิจใหม่ ทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ไปจนถึงระบบกักเก็บพลังงาน
ในปี 2021 Energy Absolute ประกาศแผนการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่ากว่า 6,100 ล้านบาท แม้จะมีปัจจัยเรื่องโควิด-19 เป็นอุปสรรคสำคัญก็ตาม โดยมีแผนการลงทุน คือ
- ลงทุนพัฒนาศักยภาพของโรงงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 2,787 ล้านบาท
- ลงทุนในการผลิตรถบัสและเรือไฟฟ้า 1,506 ล้านบาท
- ลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ให้พร้อมทำการผลิตภายในช่วงกลางปีนี้ 1,223 ล้านบาท
- ลงทุนขยายการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากกว่า 2,000 แห่งใน 53 จังหวัด 426 ล้านบาท
- ลงทุนศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการใหม่ๆ 122 ล้านบาท
- ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนาดเล็กในโรงงานไบโอดีเซลและ PCM 32 ล้านบาท
ที่น่าสนใจก็คือ Energy Absolute กล้าที่จะลงทุนในธุรกิจที่ยังไม่สามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือการลงทุนภายใต้บริบทความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด-19
สาเหตุหนึ่งที่ Energy Absolute ยังเดินหน้าลงทุนต่อไปเพราะธุรกิจยังแข็งแรงดี รายได้ของบริษัทในปี 2020 มากกว่าช่วงก่อนการระบาดในปี 2019 เสียอีก รายได้จากธุรกิจหลักยังเติบโต และแม้โควิดจะเข้ามาทำให้เศรษฐกิจซบเซาแต่ก็กระทบกำไรสุทธิในปี 2021 ของบริษัทแค่นิดเดียวเท่านั้น
บริษัทยังมีศักยภาพในช่วงโควิด-19 แม้รายได้ไตรมาสแรกลดลง
หากลองพิจารณางบการเงินของ Energy Absolute จะเห็นภาพชัดว่าบริษัทยังเข้มแข็งและมีศักยภาพในการเติบโต
รายรับสุทธิของ Energy Absolute เติบโตได้ 15% แม้โควิดระบาด
- ปี 2019 (ปีก่อนการระบาด) มีรายรับ 14,954 ล้านบาท
- ปี 2020 (การระบาดผ่านไป 1 ปี) มีรายรับ 17,199 ล้านบาท
และแม้การระบาดจะเริ่มรุนแรงขึ้น ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2021 ก็ลดลงเล็กน้อย
- รายรับสุทธิไตรมาส 1 ปี 2021 ลดลง 1.15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2021 ลดลง 2.77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ที่กำไรสุทธิลดลงเป็นเพราะ Energy Absolute เพิ่งลงทุนก้อนใหญ่ไป
สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง หลักๆ เป็นเพราะมีการลงทุนเพิ่มเติมมากกว่าปีที่ผ่านมา 79.68 ล้านบาท จากการจ้างพนักงานและผู้บริหารของบริษัทย่อยเพื่อขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ และเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโรงงาน PCM รถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ที่เริ่มต้นผลิตในปี 2020 และยังไม่แล้วเสร็จ
น่าสังเกตว่ากำไรขั้นต้น (gross profit) ก่อนหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในช่วงไตรมาส 1 ไม่ได้ลดตามไปด้วย นั่นแปลว่าศักยภาพของธุรกิจในการทำกำไรยังมีไม่น้อยไปกว่าเดิมแม้ต้องเจอโควิด
- ไตรมาส 1 ปี 2020 มีกำไรขั้นต้น 2,063 ล้านบาท
- ไตรมาส 1 ปี 2021 มีกำไรขั้นต้น 2,146 ล้านบาท
รายได้รวมลดลง แต่ธุรกิจหลักยังมีศักยภาพทำรายได้เพิ่มขึ้น
เมื่อเจาะไปดูยอดขายในรายธุรกิจจะพบว่า ผลิตภัณฑ์หลักยังสามารถสร้างรายได้มากกว่าไตรมาส 1 ปีก่อนด้วยซ้ำ
- ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน มีรายรับ 2,774 ล้านบาท ในปี 2021 (ปี 2020 รายรับ 2,766 ล้านบาท)
- ธุรกิจไบโอดีเซลมีรายรับ 1,893 ล้านบาท ในปี 2021 (ปี 2020 รายรับ 1,861 ล้านบาท)
- ธุรกิจอื่นๆ มีรายรับ 36 ล้านบาท ในปี 2021 (ปี 2020 รายรับ 106 ล้านบาท)
เห็นได้ชัดว่าธุรกิจหลักของ Energy Absolute ยังมีศักยภาพในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น การธุรกิจแบตเตอรี่ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ยังเจอความผันผวนทำให้รายได้ในภาพรวมลดลง
สรุป
เห็นได้ว่าแม้รายรับและกำไรสุทธิในปี 2021 ของ Energy Absolute จะลดลงเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาจากบริบทที่โลกกำลังเจอมรสุมจากวิกฤติโควิด-19 และพิจารณาลงลึกไปว่ากำไรที่ลดลงเกิดจากการรับภาระจากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ
นั่นแปลว่า Energy Absolute ยังมีศักยภาพเติบโตทั้งจากความมั่นคงของธุรกิจหลัก และการลงทุนเพื่ออนาคต
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหารของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ติดอันดับ 1 ใน 10 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศไทยปี 2021
ที่มา – Energy Absolute (EA)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา