กสิกรไทย ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย ออกเงินกู้ดอกต่ำ 3% พร้อมมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน

กสิกรไทย ส่ง “เงินกู้สู้ไปด้วยกัน””ดอกต่ำ 3% ช่วยร้านอาหารและร้านค้ารายย่อย พร้อมออกมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน ช่วยลูกค้าที่ปิดกิจการตามมาตรการของทางการ

กสิกรไทย เงินกู้สู้ไปด้วยกัน

กสิกรไทย ห่วงใยรายย่อย ออกเงินกูดอกต่ำ-พักชำระหนี้

กสิกรไทยออกโครงการพิเศษส่งความช่วยเหลือเร่งด่วน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านอาหารรายเล็กและร้านค้ารายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ให้เข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น

โครงการพิเศษ “เงินกู้สู้ไปด้วยกัน” อนุมัติง่าย ดอกเบี้ย 3% พักชำระเงินต้น 3 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท ผลักดันให้ร้านอาหารและร้านรายย่อยมีเงินทุนในการทำธุรกิจให้ไปต่อได้ คาดหวังช่วยร้านค้ารายย่อยได้ 35,000 ราย วงเงินสินเชื่อ 3,500 ล้านบาท 

นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังออกมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน เพื่อช่วยลูกค้าเอสเอ็มอีและลูกค้ารายย่อยที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการของทางการ  

เข้าใจผู้ประกอบการ เพราะต้องอยู่ใต้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยยังไม่คลี่คลาย ทำให้ต้องมีการยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดเข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด 10 จังหวัดตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค 

จากสถานการณ์ในตอนนี้ ธนาคารกสิกรไทยขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับร้านค้ารายย่อย จึงออกโครงการพิเศษ “เงินกู้สู้ไปด้วยกัน” อนุมัติง่าย อัตราดอกเบี้ย 3% พักชำระเงินต้น 3 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวก็กู้ได้ เพียงเดินบัญชีกับธนาคารฯ สมัครทางออนไลน์ง่ายและสะดวกที่เว็บไซต์ของธนาคารฯ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยมีเงินทุนในการทำธุรกิจ มีความหวังและกำลังใจในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้  

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

ทั้งนี้ธนาคารฯ ยังสนับสนุนให้ร้านค้าเพิ่มช่องทางการขายได้บน K+ market ในแอป K PLUS ของธนาคารฯ รวมถึงการทำกิจกรรมช่วยโปรโมตร้านผ่านสื่อต่างๆ ของธนาคารฯ และร่วมมือกับเพจออนไลน์ชื่อดัง เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายสร้างรายได้ให้แก่ร้านค้า ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง 

นอกจากโครงการพิเศษดังกล่าวแล้ว ธนาคารฯ ยังขานรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีและลูกค้ารายย่อยที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการของทางการ ด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลา 2 เดือน โดยเริ่มการพักชำระตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือน ก.ค. 2564 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าของธนาคารฯ 

นายพัชร กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารฯ พร้อมช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน ทั้งการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงิน รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่องจากการออกโครงการพิเศษเพื่อช่วยร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยในครั้งนี้ ธนาคารฯ คาดหวังว่าจะช่วยร้านค้ารายย่อยให้เข้าถึงเงินกู้ได้ 35,000 ราย โดยเตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 3,500 ล้านบาท ในวันนี้เรายังไม่รู้ว่าวิกฤตจะจบเมื่อไหร่ ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ สู้ไปด้วยกัน อย่าหมดหวัง ธนาคารกสิกรไทยพร้อมจะอยู่เคียงข้างสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าจนกว่าวิกฤตครั้งนี้จะคลี่คลาย เพื่อประคับประคองให้ลูกค้าผ่านวิกฤตไปได้ 

ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจโครงการของธนาคารกสิกรไทย

  • สำหรับร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “เงินกู้สู้ไปด้วยกัน” สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ส.ค. 2564 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ www.kasikornbank.com 
  • สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ สามารถติดต่อได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ K-BIZ Contact Center 02-888-8822 
  • ลูกค้ารายย่อย ติดต่อได้ที่ K-Contact Center 02-888-8888 หรือช่องทางไลน์ KBank Live ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. – 31 ส.ค. 2564

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา