ล่าสุด ชาวจีนที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กในครอบครองพากันเทขายเครื่องจักรของตัวเอง หลังรัฐบาลจีนสั่งปิดเหมืองคริปโตฯ ไปเป็นจำนวนมาก พร้อมนักขุดคริปโตฯ ประกาศย้ายประเทศ
เร่งขายโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทิ้ง
บนแพลตฟอร์มซื้อ-ขายสินค้ามือสองชื่อดัง Xianyu มีการโพสต์ขายโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็ก (small hydro plants) ที่ผลิตไฟได้ประมาณ 50 เมกะวัตต์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากรัฐบาลจีนสั่งปิดเหมืองคริปโตฯ ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งคือเหมืองทั้ง 26 แห่งในเสฉวนซึ่งใช้พลังงานน้ำทั้งหมด
หนึ่งในผู้ขายบอกกับสำนักข่าว SMCP ว่า “ถ้าคุณมีโรงปั่นไฟแบบนี้ คุณแอบขุดคริปโตฯ ได้แน่นอน” แต่ผู้ขายบางส่วนก็ปฎิเสธว่าสินค้าที่ตนขายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขุดคริปโตฯ
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ขายอีกคนก็อธิบายว่า “โรงไฟฟ้าบางที่หันไปขุดคริปโตฯ แทน เพราะทางรัฐบาลและองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติที่เกี่ยวข้องไม่อนุญาตให้พวกเขาผลิตไฟฟ้าให้โครงข่ายไฟฟ้าของรัฐ (power grid)”
ท่าทีของคนในวงการคริปโตฯ ที่จีน
ณ ปัจจุบัน นักขุดคริปโตฯ ในจีนกำลังเลือกระหว่างการเลิกทำอาชีพนี้โดยสิ้นเชิง ไม่ก็ย้ายประเทศไปที่ทวีปอเมริกาเหนือหรือเอเชียกลาง ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการขุดบิตคอยน์ในระดับโลกได้รับผลกระทบทันที
หนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ขุดบิตคอยน์แนวหน้าของโลกอย่าง Bitmain Technology Holding ประกาศระงับการขายอุปกรณ์ชั่วคราวหลังจากสินค้ามือสองจำนวนมากถูกเทขาย
BTCChina แพลตฟอร์มเทรดบิตคอยน์เจ้าแรกในประเทศจีนประกาศว่า “ทางบริษัทได้เลิกทำกิจการเกี่ยวกับบิตคอยน์ทั้งหมดแล้ว” โดยขายหุ้นของ ZG.com แพลตฟอร์มคริปโตฯ ในสิงคโปร์ที่ถืออยู่ทิ้งอีกด้วย
เกี่ยวกับโรงผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก
โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กมีความนิยมอย่างสูงในหลายมณฑลที่มีพื้นที่ริมน้ำ ซึ่งมาจากการสนับสนุนของรัฐบาลท้องถิ่นที่สนับสนุนโครงการต่างๆ ในการผลิตไฟฟ้าแถบชนบทที่เข้าถึงยาก โดยทางรัฐหวังจะช่วยลดความแตกต่างทางรายได้ รวมไปถึงการประหยัดไฟฟ้าและลดโอกาสของน้ำท่วมฉับพลัน
โรงผลิตไฟฟ้ามีหลายขนาด แต่ด้วยกำลังไฟ 50 เมกะวัตต์ยังถือว่ายังมีขนาดเล็กอยู่ เมื่อเทียบกับเขื่อนสามโตรก (Three Gorges Dam) ที่ผลิตไฟได้ถึง 22,500 เมกะวัตต์ แถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี ซึ่งครอบคลุมบริเวณถึง 9 มณฑลด้วยกัน มีโรงผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ถึง 25,000 เครื่องในปี 2020
ด้วยปัญหาด้านการทำลายสภาพแวดล้อม เทศบาลในบางพื้นที่ได้สั่งให้ปิดหรือแก้ไขปัญหาในโรงผลิตไฟฟ้าเหล่านี้ถึง 20,000 ที่ในปี 2020
สรุป
ด้วยผลกระทบจากการสั่งแบนคริปโตเคอเรนซี่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างโรงไฟฟ้าก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่เป็นการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนซึ่งรัฐบาลจีนสนับสนุน น่าจับตามองว่ากระแสของคริปโตฯ จะไปทางไหนในอนาคต
ที่มา – SCMP
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา