Harley-Davidson กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนัก เพราะจักรยานยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไม่สามารถจูงใจคนรุ่นใหม่ได้ และเพื่อสร้างให้ธุรกิจเติบโตอีกครั้ง ทางแบรนด์จึงเลือกเดินหน้ากลยุทธ์ขายมือสองแทน
Harley-Davidson กับความยากในโลกใหม่
Harley-Davidson เป็นแบรนด์จักรยานยนต์ที่มีอายุกว่า 100 ปี และอยู่คู่กับตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานาน ทำให้ลูกค้าหลักของแบรนด์นี้คือกลุ่ม Baby Boomers แต่ด้วยลูกค้ากลุ่มนี้บ้างก็ขับขี่ไม่ไหว หรือเสียชีวิตไปตามวัย ประกอบกับดีไซน์เดิมๆ ไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่อยากขับขี่จักรยานยนต์
ทำให้ Harley-Davidson มียอดขาย และส่วนแบ่งการตลาดลดลงกว่า 40% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ถึงขึ้นประสบปัญหาขาดทุนจนต้องปิดโรงงาน และปลดประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดังนั้นถ้า Harley-Davidson ต้องการจะอยู่ในตลาดนี้ต่อไป ทางแบรนด์จึงสร้างกลยุทธ์ใหม่ขึ้นมา นั่นคือการจำหน่ายจักรยานยนต์มือสองที่มีใบรับรองจากแบรนด์
อย่างไรก็ตามการจำหน่ายจักรยานยนต์มือสองนี้ไม่ได้เล็งกลุ่มเป้าหมาย Baby Boomers เหมือนเดิม แต่จะมุ่งเป้าไปที่คนรุ่นใหม่ ผ่านการจูงใจด้วยราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่า และหากพวกเขาได้ลองขับ Harley-Davidson แล้วเกิดชื่นชอบ ก็มีโอกาสที่จะจำหน่ายจักรยานยนต์ใหม่ให้พวกเขาได้ง่ายกว่าเดิม
ทั้งนี้ความต้องการทำกิจกรรมกลางแจ้งในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคเริ่มเบื่อหน่ายที่จะกักตัวอยู่บ้านภายใต้วิกฤต COVID-19 ซึ่งกิจกรรมขี่จักรยานยนต์ไปที่ไกลๆ เป็นอีกหนึ่งในความต้องการของผู้บริโภคที่นั่น จึงเป็นอีกปัจจัยที่ Harley-Davidson พยายามทำตลาดจักรยานยนต์มือสองในเวลานี้
สรุป
เรียกว่า Harley-Davidson ต้องพยายามทุกหนทางเพื่อเพิ่มยอดขาย และความนิยมในแบรนด์ให้กลับมาให้ได้ เพราะหากเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่สำเร็จ โอกาสที่แบรนด์จะเติบโตก็ไม่มี ยิ่ง Harley-Davidson เองพยายามกลับมาทำตลาดสหรัฐอเมริกาเต็มตัว และละทิ้งตลาดโลก ก็เหมือนกับเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่แบรนด์นี้เหลืออยู่
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา