Hotel Subscription การปรับตัวที่น่าจับตามองของโรงแรมทั่วโลก เหมาจ่ายพักไม่อั้นใน 30 วัน จับกลุ่มคนทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work From Anywhere) ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นแม้โควิด-19 จะหยุดระบาดแล้วก็ตาม
ในช่วงปีที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมทั่วโลกโดยตรง จากการปิดพรมแดน ไม่มีการเดินทางอย่างเสรีเหมือนในอดีต คงเหลือเพียงการเดินทางภายในประเทศเท่านั้นที่ยังสามารถทำได้ปกติ ซ้ำร้ายบางประเทศที่สถานการณ์โควิด-19 ยังรุนแรง การเดินทางในประเทศก็อาจเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เมื่อไม่มีการเดินทางอย่างเสรีเหมือนในช่วงเวลาปกติ โรงแรมคือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมทั่วโลกลดต่ำลงมาก เหลือต่ำกว่า 30% ตลอดปี 2021 นี้ และคาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงปี 2024
ส่วนในประเทศไทยเอง ธนาคารกรุงเทพก็เคยมีการเก็บข้อมูลอัตราการเข้าพักของโรงแรมในประเทศไทย ช่วงเดือนมีนาคม 2563 พบว่า มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 20.8% เท่านั้น และถือว่าลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้ามาก
Hotel Subscription อาจเป็นเทรนด์ในอนาคตของธุรกิจโรงแรม
เมื่อเกิดวิกฤตที่โรงแรมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้โรงแรมทั่วโลกต้องหากลยุทธ์ในการปรับตัวเพื่ออยู่รอด และหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ทดแทนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมา
ในต่างประเทศเราได้เห็นการขายห้องพักของโรงแรมในรูปแบบใหม่ แทนที่จะขายเป็นคืน ก็เปลี่ยนเป็นการเหมาจ่ายในราคาเดียว พักได้ไม่จำกัดในระยะเวลา 30 วัน โดยบางแห่งสามารถเข้าพักในโรงแรมได้ทุกแห่งในเครือ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่เป็นคนที่ต้องการเข้าพักในระยะยาว โดยการเหมาจ่ายเพื่อพักในโรงแรมนี้เรียกว่า Hotel Subscription
ที่ผ่านมาเราคงเคยชินกับคำว่า Subscription จากการสมัครสมาชิกบริการในโลกออนไลน์ เช่น Netflix, Spotify หรือ Apple Music ที่จ่ายเงินเป็นรายเดือนก็สามารถเสพสื่อความบันเทิงได้ไม่อั้น มีความคุ้มค่ามากกว่าการซื้อคอนเทนต์ความบันเทิงแยกเป็นรายชิ้น
ในมุมของ Hotel Subscription ก็เช่นเดียวกัน การยอมจ่ายเงินเพื่อเข้าพักในโรงแรมได้ไม่จำกัดในเวลา 30 วัน ย่อมคุ้มค่ากว่าการจ่ายเงินค่าโรงแรมเป็นรายคืน
ยิ่งในมุมของกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจ หรือคนที่อยากเปลี่ยนสถานที่การทำงาน โดยสามารถทำงานที่ไหนก็ได้จากทุกที่ทั่วโลก (Work From Anywhere) ย่อมต้องการที่พักระยะยาวมากกว่าคนที่เป็นนักท่องเที่ยว ที่เข้าพักในโรงแรมไม่นานก็ต้องเดินทางกลับแล้ว
โรงแรม Zoku Amsterdam ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของโรงแรมที่ปรับตัวเข้าสู่การรับรองลูกค้าที่ต้องการพื้นที่สำหรับการทำงาน โดยเปลี่ยนล็อบบี้ที่ใช้ต้อนรับแขกให้กลายเป็น Co-Working Space สำหรับการนั่งทำงาน โดยกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรมนี้ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่เป็นคนที่เดินทางเพื่อธุรกิจ หรือคนที่สามารถนั่งทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก (Work From Anywhere) โดยราคาของ Zoku Amsterdam Hotel Subscription มีราคาอยู่ที่ 83,300 บาท ต่อ 30 วัน
Work From Anywhere สร้างเทรนด์ Hotel Subscription
สาเหตุที่ทำให้โรงแรมหลายแห่งทั่วโลกทำ Hotel Subscription เพื่อพลิกวิกฤตจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นเพราะเทรนด์การทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก (Work From Anywhere) เริ่มเกิดขึ้นหลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าจะคงอยู่ต่อไปในระยะยาว
หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว การทำงานไม่ได้ผูกอยู่กับการเข้าทำงานในสำนักงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์อีกต่อไป การพักโรงแรมแบบ Hotel Subscription อาจตอบโจทย์มากกว่า เพราะได้ทั้งเที่ยว และทำงานไปพร้อมๆ กัน ในพื้นที่ที่ต้องการ จ่ายเงินเพียงครั้งเดียวได้ทั้งที่พัก สถานที่ทำงาน และบรรยากาศในชุมชนโดยรอบไปพร้อมๆ กัน
สำหรับโรงแรมในประเทศไทยก่อนหน้านี้ก็เคยมีการปรับตัวในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่ใช่ Hotel Subcription โดยตรง แต่เป็นการเปลี่ยนโรงแรมที่เคยให้พักรายวัน เป็นการให้เช่าระยะยาวตลอดเดือน เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าพัก และลดการเพิ่งพานักท่องเที่ยวที่หายไปในช่วงเวลานี้
- Hotel Subscription กลยุทธ์ใหม่เครือโรงแรมทั่วโลก จ่ายรายเดือน ทำงาน-นอนค้างไม่จำกัด
-
กลยุทธ์โรงแรมไทยปรับตัวสู้โควิด ให้เช่ารายเดือน บริการครบ จ่ายเงินแล้วเข้าอยู่ได้ทันที
ที่มา – Digiday
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา