ยุทธศาสตร์ของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในยุคหลัง COVID-19 ชัดเจนว่าต้องมาทางสตรีมมิ่งแทนการฉายหนังในโรง ซึ่งเป็นตลาดที่ Netflix ครอบครองมาก่อนใคร
ในแง่ของจำนวนประเทศที่ให้บริการ ตอนนี้ถือว่า Netflix ให้บริการไปทั่วโลกแล้ว ขาดแค่จีน เกาหลีเหนือ และซีเรียเท่านั้น ทำให้คู่แข่งของ Netflix ก็ต้องเร่งมือขยายจำนวนประเทศเช่นกัน
Disney+ ถือเป็นหัวหอกของบริการสตรีมมิ่งจากค่ายหนัง ที่ตอนนี้มียอดสมาชิกสูงถึง 94.9 ล้านคนแล้ว ในแง่ประเทศที่เปิดบริการ ตอนนี้ครอบคลุมอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ (และอินเดีย-อินโดนีเซียผ่านบริการ Disney Hotstar ในเครือ) ซึ่งคาดกันว่าในปี 2021 เราจะเห็น Disney+ ขยายประเทศในแถบเอเชียเพิ่มเติม รวมถึงประเทศไทยด้วย
สตรีมมิ่งอีกตัวที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ HBO Max ของค่าย WarnerMedia ที่เดินตามรอย Disney ภายใต้ยุทธศาสตร์เดียวกัน โดยมีหนังดังอย่างฮีโร่ฝั่ง DC หรือ Harry Potter เป็นจุดขาย
ที่ผ่านมา HBO Max ยังเปิดให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ความบันเทิงเป็นเรื่องของคนทั้งโลก การจำกัดประเทศคือการสูญเสียรายได้ที่ควรมี ทำให้ล่าสุด HBO Max ประกาศขยายตัวออกนอกอเมริกาแล้วเช่นกัน ภูมิภาคแรกที่จะเดินทางไปคือ ละตินอเมริกาและแคริบเบียนจำนวน 39 ประเทศ โดยจะเริ่มมีผลในเดือนมิถุนายน 2021
เครือ Warner มีสตรีมมิ่งอีกตัวคือ HBO Go ที่เป็นบริการควบคู่กับสมาชิกระบบเคเบิลทีวีที่มีช่อง HBO เดิมอยู่ก่อน (ในบ้านเราก็เป็น 3BB ให้บริการควบคู่ไปกับ IPTV) แต่ทิศทางใหม่ของ Warner มุ่งมั่นว่าจะไปทาง HBO Max อย่างชัดเจนตามเทรนด์ของยุคสมัย ดังนั้นสมาชิก HBO Go จะค่อยๆ ถูกเปลี่ยนเป็น HBO Max ในระยะเวลาอันใกล้ด้วยเช่นกัน
Disney+ ถือเป็นบริการสตรีมมิ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และยอดสมาชิกเกินกว่าที่ Disney ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกซะอีก เป้าหมายของ Disney จึงเป็นการทุ่มสุดตัวมาทางสตรีมมิ่งเพื่อเอาชนะ Netflix ให้ได้
ส่วน HBO Max ถูกมองว่าเป็นผลงานของ Warner ที่เดินตามรอยเท้าของ Disney แต่เริ่มต้นช้ากว่า แบรนด์หนังในมือด้อยกว่าอยู่บ้าง ดังนั้นไม่มีทางเดินอื่นนอกจากการเร่งขยายจำนวนประเทศให้บริการ และปั้นหนัง-ซีรีส์ดังๆ มาลง HBO Max เพื่อเรียกฐานลูกค้าให้มากที่สุด
ก้าวแรกของ HBO Max ในการขยายจำนวนประเทศออกนอกอเมริกาเป็นเรื่องดี แต่ Warner ยิ่งต้องเร่งขยายพื้นที่ให้เร็ว ก้าวให้ทัน เพราะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง 2 รายนำหน้าไปไกลมากแล้ว
ที่มา – AT&T
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา