SC Asset ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจประจำปี 2564 ลงทุนอีก 25,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายขอเป็นเบอร์ 1 แบรนด์บ้านเดี่ยวในประเทศไทย
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ SC Asset ว่า โควิด-19 กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ลดลง ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผูกติดอยู่กับ GDP ของประเทศ และผู้ซื้อที่อยู่อาศัยกว่า 70% จำเป็นต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย จึงทำให้อสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมาก
ปี 2563 SC Asset ทำลายสถิติยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปี 2563 ของ SC Asset กลับไม่ได้แย่ เพราะสามารถทำยอดขาย Pre Sale ได้กว่า 16,602 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของ SC Asset แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 14,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปี 2562 และแนวสูง 1,848 ล้านบาท
จากตัวเลขยอดขาย Pre Sale ในปี 2563 จะเห็นได้ว่า SC Asset เด่นที่โครงการแนวราบ หรือบ้านเดี่ยวมากกว่าโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียม โดยในปีที่แล้ว SC Asset มีส่วนแบ่งการตลาดบ้านที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นอันดับ 1 คิดเป็นส่วนแบ่ง 26% ในปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 17% ในปี 2562 ส่วนโครงการในระดับราคาอื่นๆ ก็มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยโครงการที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญคือ Bangkok Boulevard
ด้านจำนวนโครงการที่ SC Asset สามารถปิดได้ในปี 2563 มีจำนวน 6 โครงการ และยังเหลือโครงการที่กำลังขายอยู่อีก 58 โครงการ มูลค่ารวม 40,500 ล้านบาท
เป้าหมายปี 2564-2565 ขอเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ของไทย
สำหรับในปี 2564-2565 หรือในอีก 1-2 ปีนับจากนี้ ณัฐพงศ์ มองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีความท้าทาย โดย SC Asset ตั้งเป้าลงทุนเพิ่มอีก 25,000 ล้านบาท เพื่อโอนที่ดิน 30 แปลง โดยเน้นไปที่โครงการในแนวราบ (บ้านเดี่ยว) และตั้งเป้าที่จะเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ของไทย
โครงการใหม่ในปี 2564 นี้ มีทั้งหมด 11 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 8 โครงการ และแนวสูงอีก 3 โครงการ และหากรวมกับโครงการเก่าจะมีทั้งสิ้น 69 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 57,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้านบาท และรายได้ 19,000 ล้านบาท
สำหรับรูปแบบบ้านของ SC Asset ในปีนี้ จะมีโครงการในทุกระดับราคา เน้นการทำฟังก์ชันสำหรับทุกๆ คน และสามารถอยู่อาศัยได้ทุกเจน มีราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท ไปจนถึง 50 ล้าน+ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เพราะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คนต้องการบ้านเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง และการทำงานภายในบ้าน โจทย์ของ SC Asset คือ ต้องการสร้างบ้านในขนาดเท่าเดิม ราคาเท่าเดิม แต่ทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้านได้มากขึเน
นอกจากนี้ในปีนี้เราจะได้เห็นบ้านที่ออกแบบมาสำหรับคนโสด คือ บ้านที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ แต่ไม่ได้ต้องการห้องนอนจำนวนหลายห้อง เพราะต้องการพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมอื่นๆ มากกว่า รวมถึงตอบโจทย์กับการเลี้ยงสัตว์ด้วย โดยจะมีประตูสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพราะคนโสดจะรักสัตว์เลี้ยงเหมือนลูก ซึ่งระดับราคาของบ้านคนโสดจะอยู่ที่ราว 5-10 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา