เปิดเบื้องหลังแคมเปญ แสนสิริ x บาร์บีคิวพลาซ่า กลยุทธ์การตลาดข้ามสายระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับธุรกิจอาหารที่ไม่หันมาจับมือกันได้
ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นไวรัลตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่บาร์บีกอน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตากันของ บาร์บีคิวพลาซ่า หายไปจากหน้าร้าน ไม่ได้ตั้งอยู่ที่หน้าร้านเหมือนเคย จนในภายหลัง Twitter ของบาร์บีคิวพลาซ่าได้ตอบโต้กับ เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นำไปสู่การเฉลยว่าบาร์บีกอน จำเป็นต้อง Work From Home จากบ้านของแสนสิริในช่วงนี้
แสนสิริ x บาร์บีคิวพลาซ่า ไม่ได้มีแค่การนำบาร์บีกอนมาสร้างกระแสไวรัลในสังคมออนไลน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในความจริงแล้วความร่วมมือของ แสนสิริ และบาร์บีคิวพลาซ่า ซึ่งนับว่าเป็นธุรกิจคนละประเภท มีกลยุทธ์ที่ทั้งสองแบรนด์วางไว้อย่างน่าสนใจ
สำหรับรายละเอียดของแคมเปญ แสนสิริ x บาร์บีคิวพลาซ่า จะแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ซึ่งทั้งลูกค้าของแสนสิริ และบาร์บีคิวพลาซ่าจะได้ประโยชน์ ดังนี้
- แสนสิริ มง GON อาหารชุดพิเศษ เป็นการผสานชื่อระหว่างแสนสิริเข้ากับบาร์บีกอน โดยวางจำหน่ายทั้งในชุดเนื้อ ราคา 259 บาท และชุดหมูในราคา 249 บาท
- GON Gang Delivery บริการเดลิเวอรี่พิเศษ มีสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกบ้านแสนสิริ 134 โครงการ สมาชิกลูกบ้านแสนสิริรับโค้ดส่
วนลดพิเศษ 100 บาท ได้ทาง Sansiri Home Service Application แล้วนำโค้ดส่วนลดไปสั่งอาหารได้ ที่ LINE@GONGANG - GON Food Truck รถ GON Food Truck ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่โครงการของแสนสิริ
- GON GANG FLIX สิทธิพิเศษใหม่ในรูปแบบ Subscription Model แพ็คเก็จพิเศษ ที่จะเชื่อมต่อระหว่างลูกบ้
านแสนสิริ และแฟนบาร์บีคิวพลาซ่า
สำหรับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของแคมเปญ แสนสิริ x บาร์บีคิวพลาซ่า ไม่ได้มีเพียงการสร้างไวรัล และการออกโปรโมชันสำหรับลูกบ้านของแสนสิริเท่านั้น แต่นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ทั้งแสนสิริ และบาร์บีคิวพลาซ่าได้ประโยชน์กันทั้งคู่
ชลีรัตน์ ต่อจรัส ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
นอกจากการใช้คาแรคเตอร์ความน่ารักของบาร์บีกอนในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแสนสิริแล้ว แสนสิริยังต้องการใช้ฐานลูกค้าของบาร์บีคิวพลาซ่า เพื่อช่วยเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มแมสได้มากขึ้นกว่าเดิม ตามกลยุทธ์ของแสนสิริที่ในปีนี้จะเน้นขายโครงการที่อยู่อาศัยที่มีราคาถูก และเข้าถึงได้
จากที่แต่เดิมลูกค้าเดิมของแสนสิริ จะเป็นลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อบ้านราคา 4-5 ล้านบาท และจะเป็นการสร้าง Awareness และ Engagement ใหม่ๆ ให้กับแสนสิริ
แม้ว่าที่ผ่านมาแสนสิริจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็นับว่าความร่วมมือกับบาร์บีคิวพลาซ่ามีความต่างจากพาร์ทเนอร์ก่อนหน้า ที่ส่วนใหญ่จะเป็นพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวกับการบริการต่างๆ ที่สร้างความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น บริการย้ายบ้าน ทำความสะอาด เป็นต้น
ส่วนด้าน บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้
บาร์บีคิวพลาซ่าตั้งเป้า ปีนี้ไม่ขาดทุนก็เก่งแล้ว
สำหรับภาพรวมของธุรกิจอาหารตามข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า มีมูลค่าราว 400,000 ล้านบาท โดยในปีนี้จะเติบโตเพียง 1.4-2.6% เท่านั้น ซึ่งบุณย์ญานุช เล่าว่าที่ผ่านมาธุรกิจอาหารเติบโตในหลัก 10-15% มาตลอด ดังนั้นในปีนี้ บาร์บีคิวพลาซ่าจึงตั้งเป้าในปีนี้ว่า “ไม่ขาดทุนก็เก่งแล้ว” และยังคงตั้งเป้าหมายในรายไตรมาสอยู่ ส่วนในช่วงสิ้นปีนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถปิดยอดได้ราว 80% ของที่ตั้งเป้าหมายไว้
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดของบาร์บีคิวพลาซ่า จะเน้นไปที่การทำตลาดจับกับคำว่า “ปัจจัย 4” เพราะในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ผู้คนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ปัจจัย 4 เป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า และยารักษาโรค
สิ่งที่เราได้เห็นกันแล้วคือ อาหาร นั่นก็คือตัวของบาร์บีคิวพลาซ่าเอง และที่อยู่อาศัย ซึ่งก็คือการร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับแสนสิรินั่นเอง
สรุป
ความร่วมมือของแคมเปญ แสนสิริ x บาร์บีคิวพลาซ่านับว่ามีความน่าสนใจ เพราะทั้งแสนสิริ และบาร์บีคิวพลาซ่าต้องการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ ที่กว้างกว่าเดิม โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มแมสที่บาร์บีคิวพลาซ่ามี ส่วนบาร์บีคิวพลาซ่าก็ต้องการสร้าง Engagement กับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่กว้างกว่าเดิมเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา