Elon Musk เจ้าพ่อรถยนต์ไฟฟ้า มหาเศรษฐี CEO ของ Tesla เคยทวิตข้อความว่าจะสนับสนุนเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์ (3 พันล้านบาท) ให้กับผู้ที่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดีที่สุด
[Update 27 เมษายน 2021] ล่าสุด โครงการนี้เปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการแล้ว ดูได้ที่ XPrize
XPrize team will manage the $100M carbon capture prize https://t.co/fSw5IanL0r
— Elon Musk (@elonmusk) February 9, 2021
XPRIZE จะเป็นผู้จัดการแข่งขัน
ล่าสุด Elon Musk ประกาศว่า XPRIZE องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่เป็นแพลตฟอร์มการจัดแข่งขันเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับมนุษยชาติ จะเป็นผู้จัดการแข่งขันเฟ้นหาผู้ที่สามารถสร้างเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนที่ดีที่สุด
อัพเดตการแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนเบื้องต้น
แม้ทาง XPRIZE จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดจนกว่าจะถึงว่าที่ 22 เมษายน แต่เบื้องต้น XPRIZE ประกาศแนวทางคร่าวๆ ในเว็บไซต์ดังนี้
ทีมที่เข้าแข่งขันจะต้องคิดค้นโมเดลการจัดการคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ และต้องสามารถขยายสเกลของโมเดลการจัดการคาร์บอนให้ได้ถึงระดับกิกะตัน
เป้าหมายของการแข่งขันในครั้งนี้คือการสร้างวิธีแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถดูดซับคาร์บอนไดอ็อกไซด์ได้มากกว่า 10 กิกะตันต่อปีภายในปี 2050
Elon Musk กล่าวในประกาศการแข่งขันว่า “เราต้องการสร้างระบบที่ชัดเจน วัดผลได้จริง สามารถสร้างผลกระทบได้ในระดับกิกะตัน (ระดับพันล้านตัน) และต้องทุ่มเททั้งหมดที่มีเพราะเวลาไม่คอยท่า”
การแข่งขันครั้งนี้จะกินระยะเวลา 4 ปี โดยใน 18 เดือนแรก ผู้เข้าแข่งขัน 15 ทีมสุดท้ายจะได้รับเงินทุนสนับสนุนทีมละ 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนไปสู่สเกลที่ใหญ่ขึ้น
ส่วนการแข่งขันในรอบสุดท้าย ผลรางวัลมีดังนี้
- ทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัล 50 ล้านดอลลาร์
- ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับรางวัล 20 ล้านดอลลาร์
- ทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับรางวัล 10 ล้านดอลลาร์
- ทีมของนักเรียนนักศึกษา จะได้รับทุนจำนวน 2 แสนดอลลาร์ (25 ทุน)
เด็กไทยก็ถูกจุดประกายโดย Elon Musk เช่นกัน
หลังจาก Elon Musk ทำการทวิตข้อความเกี่ยวกับเทคโนโลยีดูดซับคาร์บอน แอนโทนี ปิยชนม์ ภุมวิภาชน์ วัย 15 ปี นักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติเกนส์วิลล์ เชียงราย ก็กลายเป็นหนึ่งในเยาวชนทั่วโลกที่ถูกจุดประกายแรงบันดาลใจ
เขาเผยแพร่วิดิโอแสดงโมเดลการดูดซับการคาร์บอนโดยใช้กระบวนการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ให้กลายเป็นไฮโดรเจนและน้ำ
ปัจจุบัน แอนโทนี่และลุงของเขากำลังร่วมมือกันเพื่อพัฒนาโมเดลต้นแบบอยู่
ที่มา – Electrek, XPRIZE, NGThai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา