Facebook รุกหนัก ชวนทำตลาดออนไลน์ ใช้ Big Data สงกรานต์-ปีใหม่ไทย คนใช้มือถือเพียบ

เตรียมตัวต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงในอีก 1 เดือนข้างหน้า นอกจากจะเตรียมสาดน้ำกันให้ชุ่มฉ่ำใจแล้ว ผู้ประกอบการโดยเฉพาะในพื้นที่ออนไลน์น่าจะต้องเตรียมสาดโฆษณาเข้าหน้า New Feed กันอย่างหนัก เพราะ Facebook เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกมาแล้วว่า ช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมามีจำนวนการใช้ Facebook สูงมาก และที่สำคัญคือใช้บริการผ่าน “มือถือ” เป็นหลัก

เรากำลังเข้าสู่สังคม Smart Phone โดยแท้จริง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นอีกอวัยวะหนึ่งของมนุษย์สมัยใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว มากกว่านั้นก็ต้องมี Facebook เป็นแอพสามัญประจำเครื่อง ดูได้จากสถิติทั่วโลกที่มีผู้ใช้ Facebook กว่า 1,860 ล้านคนต่อเดือน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ใช้ Facebook กว่า 299 ล้านคนต่อเดือน ส่วนในไทยมีผู้ใช้ Facebook ถึง 44 ล้านคนต่อเดือน (ประชากรไทยปัจจุบัน เกือบ 70 ล้านคน)

Facebook Thailand เปิดข้อมูลสถิติที่น่าสนใจคือ ในจำนวนผู้ใช้ Facebook ทั้งหมดในไทยนั้น ประมาณ 98% ใช้งาน Facebook ผ่านมือถือ หรือถ้านับเป็นรายวันคือ มีผู้ใช้งาน Facebook ผ่านทุกแพลตฟอร์มวันละ 31 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ใช้ผ่านมือถือ 30 ล้านคนต่อวัน และใช้เวลาเฉลี่ยบนมือถือเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง 40 นาที

โอกาสทองของคนทำธุรกิจออนไลน์ สงกรานต์-ปีใหม่ไทย คนใช้เยอะ

รู้แบบนี้แล้ว Facebook จึงหยิบโอกาสนี้มาให้ผู้ประกอบการฉวยใช้โอกาสในการทำการตลาดออนไลน์ เพราะนอกจากสถิติโดยภาพรวมที่ถือว่าสูงมาก จอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ Facebook ประเทศไทย ยังเปิดข้อมูลในเชิงลึกที่มากกว่านั้นโดยบอกว่า ถ้าอิงจากสถิติในปีที่แล้ว 2016 จะพบว่าช่วงสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีผู้ใช้ Facebook สูงมาก โดยใช้ผ่านมือถือกันถึง 95% (ข้อมูลภายในของ Facebook ระหว่าง 1 มีนาคม – 30 เมษายน)

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ คนไทยโพสต์วิดีโอเพิ่มขึ้น 74 เปอร์เซ็นต์ และโพสต์รูปภาพเพิ่มขึ้น 40 เมื่อเทียบกับช่วงระหว่างวันที่ 1 มีนาคมจนถึง 30 เมษายน 2559 โดยหัวข้อที่ผู้คนพูดคุยกันมากที่สุดบน Facebook คือ การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ครอบครัว รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม

“ผู้ชายโพสต์เกี่ยวกับเรื่องบ้านและความสะอาด มากกว่าช่วงเวลาปกติ 26 และ 13 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ในขณะที่ผู้หญิงโพสต์เกี่ยวกับการช้อปปิ้งและความสวยความงามมากกว่าช่วงเวลาปกติ 61 และ 53 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ”

โฆษณาช่วงสงกรานต์ได้ผลแน่ แต่ต้องมีกลยุทธ์

Facebook ประเทศไทย ยังเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์อย่างมากกับคนทำธุรกิจออนไลน์ (แต่ต้องอยู่บนฐานของ Facebook) แต่แม้ว่าจะอ้างสถิติจากวีซ่าคือ 70 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยนั้นค้นหาข้อมูลสินค้าบนสมาร์ทโฟน และ 1 ใน 2 ของจำนวนนี้ซื้อสินค้าบนสมาร์ทโฟน แต่ถ้าผู้ประกอบการกระหน่ำโพสต์โฆษณาไปในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (13-15 เมษาฯ) อาจไม่ได้ผลดีนัก

นั่นเพราะว่า สถิติเชิงลึกของ Facebook บอกว่า “ช่วงสงกรานต์ 13-15เมษาฯ คนไม่ซื้อของ” แต่คนยังเล่น Facebook โดยช่วง 3 วันจุดพีคของเทศกาล คนใช้เพื่อโพสต์และรับข้อมูล ไม่ใช่การซื้อสินค้า

จอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ Facebook ประเทศไทย

กลยุทธ์ที่ Facebook นำเสนอจากการวิเคราะห์ฐานข้อมูล Big Data ซึ่งน่าสนใจมากคือ ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาล ยอดการซื้อสินค้ามีอัตราสูงขึ้นกว่าช่วงเทศกาลถึง 28% และหลังเทศกาลมียอดกลับมาซื้อสูงถึง 36% (อย่างไรก็ตาม ฐานข้อมูลนี้ Facebook ยืนยันว่ามาจากการซื้อขายสินค้าในโลกออนไลน์จากหลายช่องทาง ไม่ใช่แค่ Facebook อย่างเดียว)

“ดังนั้น กลยุทธ์ที่เป็นไปได้คือ ใช้การโฆษณาขายสินค้าในช่วงก่อนหรือหลังเทศกาล 1-2 สัปดาห์ จะได้ผลอย่างมากต่อการกระตุ้นยอดขาย ส่วนในช่วงเทศกาลให้ทำโฆษณาเชิงสร้างการรับรู้ หรือถ้าสร้างกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับเทศกาลได้ ก็จะให้ผลที่ดีกว่า”

Facebook ยก Chilindo กับ Tesco Lotus ต้นแบบ E-commerce

Facebook ประเทศไทยยกกรณีศึกษาของ 2 บริษัทนี้มาเป็นตัวอย่างในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก Chilindo เป็นเว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ที่ใช้ Facebook ในการขยายตลาดบนออนไลน์ เพียง 3 เดือนสามารถเข้าถึงผู้คนได้กว่า 35.7 ล้านคน ส่วน Tesco Lotus ก็ใช้ Facebook จนประสบความสำเร็จจากการทำแคมเปญโฆษณาวิดีโอหรือกระตุ้นยอดโปรโมทแอพบนมือถือ

คาสปาร์ โบ เจนเซ่น ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Chilindo เล่าให้ฟังว่า “เราลองผิดลองถูกมาตลอด ผมคงไม่บอกว่า Facebook เป็น perfect campaign แต่สิ่งที่ดีของ Facebook คือติดตามผลได้ ประเมินผลได้ แล้วยังรู้ข้อมูลเชิงลึก ปรับได้ทั้งอายุ ช่วงเวลาในการนำเสนอ เพราะผู้บริโภคสมัยนี้เบื่อ message เดิมๆ และสุดท้าย สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ อย่าตั้งงบการตลาดที่ตายตัว แต่คุณควรตั้งเป้าหมายแล้วไปให้ถึง นั่นจะตอบโจทย์ธุรกิจคุณมากกว่า บางทีจากเดิมที่จะต้องใช้งบถึงหลักแสน คุณอาจใช้เพียงหลักหมื่นก็ได้”

คนกลาง-คาสปาร์ โบ เจนเซ่น ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Chilindo คนขวา-ภาคิณ ศรีบุศย์ดี หัวหน้าฝ่ายดิจิตอลของ Tesco Lotus

ภาคิณ ศรีบุศย์ดี หัวหน้าฝ่ายดิจิตอลของ Tesco Lotus บอกว่า “อันดับแรกเราต้องละทิ้งความคิดเรื่องสื่อเก่า คือต้องออกมาจากแพลตฟอร์มการโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือทีวี เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงและไม่ตรงจุดเป้าหมาย ในปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปมาก การทำการตลาดจึงต้องเปลี่ยนตาม ส่วนการเลือกใช้ Facebook เพราะตรงจุด เลือกกลุ่มเป้าหมายได้ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ต้องออกมาลอง และอย่ากลัวความล้มเหลว”

สรุป

Facebook เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ Facebook ย้ำจากฐานข้อมูลที่มีว่า การโฆษณาสินค้าต่อจากนี้ต้องมุ่งไปในมือถือมากขึ้น เพราะมือถือได้กลายเป็นแหล่งชอปปิ้งแห่งใหม่ไปเสียแล้ว การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปทำการตลาดหลังจากนี้จะแข่งขันกันบนออนไลน์มากขึ้น แหล่งทุนโฆษณาน่าจะโยกย้ายจากสื่อเก่าอย่างหนังสือพิมพ์และทีวีมาสู่โลกออนไลน์ การแข่งขันที่สูงขึ้นด้วยข้อมูลเชิงลึก จึงทำให้ Big Data ของ Facebook น่าจับตามอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา